ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาครั้งใหญ่หลัง CZ หรือจางเผิ้ง จ่าว (Changpeng Zhao) ซีอีโอ Binance รับสารภาพผิดข้อหาฟอกเงิน ซึ่งละเมิดต่อกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของสหรัฐฯ พร้อมเสียค่าปรับถึง 1.5 แสนล้านบาท ขณะที่ในประเทศไทย Binance ได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมเปิดให้บริการ
ตามที่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) ได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า Gulf Binance ได้รับอนุญาตจากทางสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้สามารถเริ่มประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา และจะเปิดให้ผู้ใช้งานที่ได้รับการเชิญเท่านั้น (by invitation only) ก่อน และมีกําหนดจะเปิดเป็นการทั่วไปในช่วงต้นปี 2567
สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า เขาเลือก Binance เนื่องจากตำแหน่งของการเป็นผู้นำในตลาด โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย มีความเข้มงวดมาก และได้ถามคำถามมากมายเกี่ยวกับ Binance ก่อนที่เขาจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาต
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด Binance ไม่ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดในข้อหาก่ออาชญากรรม เช่น ฉ้อโกง หรือนำเงินของลูกค้าไปใช้ในทางที่ผิด โดยตนมีความมั่นใจต่อระบบความปลอดภัย และผลิตภัณฑ์ของ Binance
“Binance เติบโตอย่างรวดเร็ว และอาจก้าวข้ามกฎระเบียบบางอย่าง อย่างไรก็ตามเรามีความมั่นใจในความน่าเชื่อถือมากขึ้นหลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ และจะทำให้แพลตฟอร์มแข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน”
นอกจากนี้ยังกล่าวถึง การกำกับดูแลด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน
“คริปโตฯ มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อกฎระเบียบที่จะตามให้ทัน ทำให้เจ้าหน้าที่ความเข้มงวดขึ้น พร้อมท้ังเริ่มปรับแก้แนวทางปฏิบัติทางธุรกิจ ด้านผู้เข้าร่วมตลาดทุกคนจำเป้นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่”
พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า Gulf Binance มีพันธมิตรด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบไร้สาย นั่นก็คือ Advanced Info Service Pcl ที่จะสนับสนุนการดำเนินงานด้านการตลาดด้วยเช่นกัน.
อ้างอิง Bloomberg