เปิดตัวแล้ว Orbix กระดานเทรดคริปโตฯ เครือ KBank คาดพลิกมีกำไรใน 2 ปี พร้อมดันขึ้น Top 3 ของไทย

Tech & Innovation

Digital Assets

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดตัวแล้ว Orbix กระดานเทรดคริปโตฯ เครือ KBank คาดพลิกมีกำไรใน 2 ปี พร้อมดันขึ้น Top 3 ของไทย

Date Time: 29 พ.ย. 2566 20:25 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • เปิดตัวแล้ว Orbix กระดานเทรดคริปโตฯ เครือ KBank ตั้งเป้าขึ้นแท่น Top 3 ของ Exchange ในประเทศไทย ภายใน 3 ปี พร้อมปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า เล็งเพิ่มสภาพคล่องผ่านโบรกเกอร์ คาดบริษัทพลิกมีกำไรได้ใน 2 ปี

หลังจากที่ข่าว ธนาคารกสิกรไทย จัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อว่า Unita Capital เข้าซื้อหุ้น 97% ของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (Satang Pro) กระดานเทรดคริปโตฯ สัญชาติไทย ที่ได้รับใบอนุญาตภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2560 และได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จํากัด ล่าสุดวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว 

นายชาญวิทย์ รุ่งเรืองลดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด (orbix) เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็นโอกาสเพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่จะเกิดขึ้น โดยได้เปิดตัว “orbix” แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิด “สู่ประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึงบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้งานง่ายและมีการเพิ่มความปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์มที่ให้บริการตามมาตรฐานการจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO 27001:2013 และ ISO 27701:2019 รวมถึงฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ พร้อมทีมให้บริการช่วยเหลือลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง 

3 ฟีเจอร์เด่น ของ orbix 

1.Wallet Lock ที่มีระบบการล็อกกระเป๋าสองชั้น ลูกค้าสามารถตั้งค่าเปิด-ปิด Wallet Lock ได้ด้วยตนเอง

2.Price Alert ตั้งเตือนราคาที่ใช่ ไม่ต้องเฝ้าจอ ไม่พลาดทุกโอกาสการซื้อขาย โดยสามารถเลือกเหรียญที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง 

3.orbix Balance ระบบช่วยคำนวณต้นทุนเหรียญแบบอัตโนมัติ ทำให้รู้กำไรขาดทุนทุกเหรียญ โดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ ซึ่งจะสามารถเริ่มใช้งานได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ สำหรับการคำนวณใน orbix Balance เป็นการคำนวณเบื้องต้นจากข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ และข้อมูลต้นทุนของผู้ใช้งาน โดยการคำนวณเหล่านี้ไม่ใช่การให้คำแนะนำทางการเงิน หรือแนวคิดแนะนำใดๆ

นอกจากนี้ orbix ยังได้พัฒนาให้ง่ายต่อการเข้าถึง โดยหลังจากดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้วก็สามารถสมัครใช้งาน เลือกวิธีการยืนยันตัวตนได้ 2 แบบ คือ การยืนยันตัวตนผ่าน NDID สำหรับลูกค้าทั่วไป และการยืนยันตัวตนบน K+ สำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทย

ขณะที่ข้อกังวลเรื่องใบอนุญาตินายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (โบรกเกอร์) ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องสภาพคล่องให้กับ orbix นั้น บริษัทอยู่ระหว่างอยู่ระหว่างพิจารณาในการดำเนินการว่ามีความจำเป็นมากน้อยขนาดไหน โดยกลยุทธ์ของ orbix นอกจากเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานให้มากขึ้น จากเดิมที่มีอยู่ราว 200,000 ราย ที่ใช้บริการแพลตฟอร์มเดิม (Satang Pro) และมีวอลุ่มการซื้อขายล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาราว 1,000 ล้านบาท บริษัทยังมีการเชื่อมต่อระบบกับผู้ให้บริการที่ได้รับใบอนุญาตโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่น ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมในด้านสภาพคล่องให้กับ orbix ได้

อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าขึ้นเป็น Top 3 ของ Exchange ในประเทศไทย ภายใน 3 ปี ในแง่ของจำนวนบัญชีผู้ใช้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และคาดว่าจะพลิกมีกำไรได้ภายใน 2 ปี หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี 2563-2565 

ปี 2565 รายได้ 28,442,959 บาท ขาดทุนสุทธิ 73,526,785 บาท

ปี 2564 รายได้ 92,445,260 บาท ขาดทุนสุทธิ 5,469,092 บาท 

ปี 2563 รายได้ 20,256,207.13 บาท ขาดทุนสุทธิ 62,133,772.30 บาท 

KBank จังหวะดี พร้อมต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจ

ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงาน Corporate Strategy and Innovation Division ธนาคารกสิกรไทย
ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงาน Corporate Strategy and Innovation Division ธนาคารกสิกรไทย

ด้านดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงาน Corporate Strategy and Innovation Division ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า สิ่งที่เห็นวันนี้เป็นผลของเวลากว่าเกือบ 3 ปี ในการที่เราคิดว่าจิ๊กซอว์มีอะไรบ้าง ICO Portal ถือเป็นจุดเริ่มต้น แล้วเราก็เรียนรู้ว่ามีตลาดแรก ก็ต้องมีตลาดรอง และตลาดรองที่เหมาะสมก็ต้องมี Fund Manangement ที่จะได้เห็นช่วงต้นปีหน้า และต้องมี Custodian ที่จะเห็นไตรมาสสามปีหน้า

รวมถึงถ้าสร้างความเชื่อมโยงโลกการเงินใหม่ เราก็มีการทำบล็อกเชนของตัวเอง เลยต้องมี  orbix Tech ที่เปิดตัว Quarix chain ไปเมื่อวันก่อน และในบล็อกเชนเองเราพยายามทำให้มีสิ่งที่เรียกว่า เงิน อยู่ในนั้นได้ และอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้นให้มองว่าทั้งธุรกิจกระดานเทรด ฯ บริหารจัดการกองทุน เป็นเหมือนสถานี  และมีบล็อกเชนเป็นรางรถไฟ แล้วมีการเอาของลงมาแลกเปลี่ยนที่ชานชาลา  เราก็เลยต้องสร้างชานชาลาที่รองรับคนไทย สร้างรางรถไฟให้เหมาะกับการกำกับดูแลในไทย 

ก่อนหน้านี้ธนาคารได้มีการร่วมมือกับ สกพอ. ขับเคลื่อนการพัฒนาแหล่งระดมทุนและบริการทางการเงินเพื่อพัฒนา EEC ซึ่งกจะทำให้สามารถเอาบล็อกเชนมาหา real world use case  ที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุนที่มีอิมแพค 

เมื่อถามถึงการออกเหรียญบนบล็อกเชน  Quarix chain ที่อยู่ระหว่างพัฒนา ดร.กรินทร์ กล่าวว่า อยู่ในช่วงของการออกแบบ เพราะเราเป็นเชนที่เรียกว่าถูกกำกับดูแลโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานก.ล.ต. และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เข้มข้นมาก ดังนั้นดีไซน์ของเหรียญของเชนที่จะออกมา คาดว่าน่าจะแตกต่างจากแบบเดิมที่มีอยู่อย่างแน่นอน

ขณะที่ช่วงเวลาของการเปิดตัวธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และกระดานเทรดฯ มองว่ามีความสุกงอมพอแล้ว  เพราะตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกก็เริ่มมีความชัดเจนของการกำกับดูแลมากขึ้น ธนาคารก็พร้อมจะให้บริการ มันก็จะทำให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้มากขึ้น ดังนั้น การเปิดตัวในช่วงเวลานี้ มองว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม  

และการที่ธนาคารมารุกในธุรกิจดังกล่าวนี้ ไม่ได้ถึงขั้นจะกลายเป็น New S-Curve ให้กับธนาคารขนาดนั้น หากมองที่จำนวนคน และเงินลงทุนที่ไม่ได้เป็นก้อนใหญ่มากเมื่อเทียบกับทุนของธนาคาร เพียงแต่เราตั้งโจทย์จากความต้องการของลูกค้า เพราะในอดีตลูกค้าของเราทั้งในและต่างประเทศ หลายคนเกิดความเสียหายโดยใช่เหตุจากผู้ให้บริการ แล้วมันทำให้ความมั่งคั่งของเขาลดลง ส่วนการลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นจะสามารถสามารถรายได้แบบมีนัยยะกับการเติบโตโดยรวมมากน้อยแค่ไหน อาจต้องรอดูสักระยะ 

อย่างไรก็ตาม ดร.กรินทร์ กล่าวทิ้งท้ายถึงจุดแข็งที่สามารถเสริมกันและกันของ Satang Pro หลังธนาคารส่งบริษัทย่อยเข้าซื้อกิจการว่า การเข้าไปซื้อกิจการ Satang Pro มองว่า asset ที่มีค่าที่สุดสำหรับเรา คือ ทีมงาน เพราะทีมนี้มีทั้งความกลมเกลียวและลงมือทำจริง อีกทั้งมายด์เซตของเขาใกล้เคียงกับเรา คือ ไม่ได้เน้นความหวือหวา เน้นการให้บริการ การที่เราเข้าไปซื้อกิจการมองว่าเราจะช่วยพัฒนาต่อยอด และช่วยยกระดับมาตรฐานต่อการกำกับดูแลมากขึ้นด้วย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์