ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 และในการประชุมครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนอขาย debt-liked ICO และ infra-backed ICO และ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศดังกล่าวแล้วเมื่อเดือนมีนาคมและเดือนสิงหาคม 2566 ตามลำดับ ซึ่งผู้แสดงความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยตามที่เสนอ
ก.ล.ต. จึงออกประกาศเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลดังกล่าว เพื่อให้มีกลไกการป้องกันความเสี่ยงและการคุ้มครองผู้ลงทุนที่เพียงพอเหมาะสม รวมถึงป้องกันปัญหาความเหลื่อมล้ำในกฎเกณฑ์และการกำกับดูแล (regulatory arbitrage) เมื่อเทียบกับการออกเสนอขายหลักทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายกัน พร้อมทั้งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการระดมทุน โดยมีสาระสำคัญดังนี้
- กรณี debt-liked ICO ที่มีการกำหนดอัตราผลตอบแทนไว้แน่นอน ไม่ผันแปรตามการดำเนินงานของโครงการแต่อาจมีการให้ผลตอบแทนเพิ่มเติม (extra return) ต้องมีการจัดทำและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความน่าเชื่อถือของโครงการอย่างสมเหตุสมผลโดย ICO portal หรือผู้เชี่ยวชาญที่เป็นอิสระ รวมทั้งเปิดเผยปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินความเสี่ยงในด้านฐานะและความสามารถในการชำระหนี้คืนของโครงการ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนและสามารถพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างเหมาะสม
- กรณี infra-backed ICO ที่เป็นการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนโดยมีกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากกระแสรายรับที่มาจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานนั้น มีการปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้เทียบเคียงได้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Trust) โดยสอดคล้องกับบริบทของ ICO ซึ่งการปรับปรุงกฎเกณฑ์ในครั้งนี้ครอบคลุมเรื่องการกำหนดลักษณะของทรัพย์สินอ้างอิง ข้อกำหนดเกี่ยวกับการตรวจสอบและสอบทาน (due diligence) และการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน หน้าที่และการปฏิบัติงานของทรัสต์ การบริหารจัดการทรัพย์สินของ issuer รวมทั้งข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ การออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566