นายธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Senior Venture Director บริษัท กสิกร เอกซ์ จำกัด (KX) เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ การแสวงหาและลงทุนในสตาร์ทอัพและผู้ที่กำลังพัฒนาโครงการเทคโนโลยีในเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนที่มีศักยภาพสูง และส่งเสริมให้โครงการเหล่านี้เข้าสู่ภาคธุรกิจในตลาดระดับภูมิภาคและระดับโลกได้มากขึ้น รวมถึงเปิดโอกาสในการสนับสนุนสตาร์ทอัพอื่นๆ จากทั่วโลกให้เข้ามายังเครือข่ายของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของ Web3 ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค
สำหรับความร่วมมือในการลงทุนเชิงกลยุทธ์ร่วมกับ HashKey Capital จะประสานศักยภาพของ HashKey Capital ที่มีความพร้อมด้านเงินลงทุนขนาดใหญ่ กับความสามารถของ KX ที่มีจุดแข็งด้านชื่อเสียงและเครือข่ายในวงการนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้ใช้งานกลุ่มธุรกิจและรายย่อยทั่วภูมิภาค
โดยล่าสุด HashKey Capital ผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนในฮ่องกง ประสบความสำเร็จในการปิดกองทุน Fund III ด้วยการระดมทุนได้ถึง 17,500 ล้านบาท (500 ล้านดอลลาร์) จากสถาบันและนักลงทุนที่มีมุมมองทางนวัตกรรมทางการเงินที่หลากหลาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของ Web3 ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค
ด้านนาย Deng Chao, CEO ของ HashKey Capital และ Head of HashKey Singapore กล่าวเพิ่มเติมว่า HashKey Capital เข้าสู่โลก Web3 อย่างมีนัยสำคัญ โดยลงทุนในสตาร์ทอัพหลายแห่งที่กำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมและความก้าวหน้าใน Web3 ขณะเดียวกัน KX ก็มีพันธมิตรและเครือข่ายทั่วโลกที่คาดว่าการร่วมมือระหว่างกันจะขยาย Ecosystem และส่งเสริมนวัตกรรม Web3 ของสตาร์ทอัพในท้องถิ่น ด้วยการอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความรู้และความเชี่ยวชาญในโลก Web3 เพื่อสร้างอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชนในภูมิภาคได้เป็นอย่างดี