Ripple ได้ใบอนุญาต MPI ในสิงคโปร์ บริการคริปโตเต็มที่ พร้อมอวยยศ ธนาคารกลาง MAS สร้างสมดุลได้ดี

Ripple เครือข่ายชำระเงินด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ได้รับใบอนุญาตสถาบันการชำระเงินหลัก (Major Payment Institution : MPI) จากธนาคารกลางสิงคโปร์ หลังจากที่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้รับการอนุมัติในหลักการเบื้องต้น ทำให้ในขณะนี้ Ripple สามารถให้บริการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล ที่ได้รับการควบคุมภายในสิงคโปร์ต่อไป

Ripple เน้นย้ำว่าธุรกิจมากกว่า 90% ของบริษัทมาจากการดำเนินงานนอกสหรัฐอเมริกา และมองว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เติบโตเร็วที่สุด

สำหรับสิงคโปร์เป็นประเทศระดับแนวหน้าของการออกกฎระเบียบที่ชัดเจนในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค โดยมีกฎหมายควบคุมบริการการชำระเงินและการให้บริการสกุลเงินดิจิทัลแก่สาธารณะ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 

นอกจากนี้สิงคโปร์ยังได้ออกกฎเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบบริษัทด้านคริปโต เพื่อปกป้องทรัพย์สินของลูกค้า ภายในสิ้นปี 2566 รวมถึงยังจำกัดความสามารถของบริษัทคริปโตฯ ในการอำนวยความสะดวกในการให้ยืมหรือถือครองทรัพย์สินของลูกค้าอีกด้วย

ด้าน Brad Garlinghouse ซีอีโอ ของ Ripple ระบุในแถลงการณ์ว่า สำหรับ Ripple ได้เข้ามาตั้งสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ เพื่อดำเนินงานในเอเชียแปซิฟิกตั้งแต่ปี 2560 และการได้รับใบอนุญาตฯ ในครั้งนี้ทำให้ Ripple สามารถขยายการดำเนินงานในสิงคโปร์ต่อไปได้อย่างเต็มที่

และภายใต้การนำของ MAS ทำให้สิงคโปร์ได้พัฒนาเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Fintech และสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ โดยสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรม การคุ้มครองผู้บริโภค และการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวในสิงคโปร์นี้เป็นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับสถานการณ์ของ Ripple ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งพัวพันกับการต่อสู้ทางกฎหมายกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ที่ได้กล่าวหา Ripple และผู้ก่อตั้งในปี 2020 ว่าขายเหรียญ XRP อย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่มีการลงทะเบียนกับ SEC ก่อน แต่ผลการตัดสินของคดีนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ระบุว่า XRP ไม่จัดเป็นหลักทรัพย์ ทำให้ Ripple ชนะคดี SEC ในที่สุด

ต่อมาแม้ว่า SEC จะมีการอุทธรณ์ต่อคำตัดสินของศาล แต่ล่าสุด ผู้พิพากษาก็ได้ปฏิเสธการยื่นอุทธรณ์ ดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่า SEC ล้มเหลวในกระบวนการการพิสูจน์ว่ามีประเด็นกฎหมายที่ควบคุม กล่าวคือ มีเหตุผลไม่เพียงพอ แต่อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ก็ไม่ได้เป็นที่สิ้นสุด เพราะว่า ผู้พิพากษากำหนดวันพิจารณาคดีครั้งถัดไปในเดือนเมษายน 2567 สำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ยังต้องได้รับการแก้ไข 

นอกจากประเด็นของ Ripple แล้ว Coinbase ซึ่งเป็นบริษัทด้านคริปโตใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ซึ่งก่อนหน้านี้ถูก SEC สั่งฟ้องฐานทำผิดกฎหมายหลักทรัพย์

และได้วิพากษ์วิจารณ์การขาดความชัดเจนเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านคริปโตในสหรัฐอเมริกา รวมถึงขู่ว่าจะออกไปทำธุรกิจนอกประเทศ ล่าสุดเพิ่งประกาศว่า ได้รับใบอนุญาตชำระเงินอย่างเต็มรูปแบบ จากธนาคารกลางสิงคโปร์หลังจากได้รับการอนุมัติในหลักการเบื้องต้นเมื่อปีที่แล้ว

ทั้ง Ripple และ Coinbase เป็นหนึ่งในบริษัทมากกว่า 10 แห่งที่ได้รับใบอนุญาตในการให้บริการสกุลเงินดิจิทัลในสิงคโปร์

อ้างอิง cnbc, coindesk