เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับโครงการ CCC Academy หลักสูตรให้ความรู้และส่งเสริมสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนครั้งแรกของไทย โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนชั้นนำของไทย รวมถึงบริษัทบล็อกเชนระดับโลก เตรียมผลักดันสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนที่มีศักยภาพเข้าโปรแกรม Incubute และ Accelerate เพื่อผลักดันให้นำเทคโนโลยีสนับสนุนการเติบโตในอุตสาหกรรมพุ่งเป้าเพื่อให้เกิด Use Case จริง รวมถึงได้รับการสนับสนุนทั้งเงินทุนและการร่วมลงทุนจากกองทุนวีซี
ดร.นที เทพโภชน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คริปโตซิตี้ คอนเน็กซ์ จำกัด และ Lead Co-Ordinator CCC Academy กล่าวว่า โครงการ CCC Academy จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Web3 ให้กับกลุ่มเป้าหมายหลักสามกลุ่ม คือ กลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือ Tech Talent, กลุ่มหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และกลุ่มประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องว่าบล็อกเชนและ Web3 ไม่ใช่เทคโนโลยีที่มีเพียงแค่การเก็งกำไรแต่เพียงอย่างเดียว แต่สามารถนำมาปรับประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการความโปร่งใส ตรวจสอบได้
โครงการดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานนวัตรกรรมแห่งชาติ หรือ NIA, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa), หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และภาคเอกชนอย่าง บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) และเซ็นทรัลเทคในเครือบริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CRC และยังมีอีกหลายหน่วยงานที่จะเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม
พญ.นวพร นะลิตา ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท คริปโตซิตี้ คอนเน็กซ์ จำกัด และ Global VC Co-Ordinator CCC Academy กล่าวว่า โครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสำนักงานนวัตรกรรมแห่งชาติ (NIA), สถานทูตไทยประจำประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในการเข้าพบและให้ข้อมูลโครงการ CCC Academy กับนักลงทุนด้านบล็อกเชนรายใหญ่ของโลกอย่าง CV Labs ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Zug ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็น Crypto Valley ของโลก
ทำให้ CV Labs มีความเข้าใจในระบบนิเวศของอุตสาหกรรมบล็อกเชนในประเทศไทย และมองเห็นถึงศักยภาพในการผลักดันให้สามารถเติบโตได้ จึงได้ตอบรับในการเข้าร่วมสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนในไทยทั้งในด้านวิสัยทัศน์ องค์ความรู้ ตลอดจนแหล่งเงินทุนให้กับสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากนี้ ยังมีบริษัทด้านบล็อกเชนระดับโลกอย่าง Polkadot และ Near ได้ตอบรับที่จะเข้าร่วมสนับสนุนสตาร์ทอัพในโครงการ CCC Academy อีกด้วย
นเรศ เหล่าพรรณราย ผู้อำนวยการโครงการ CCC Academy กล่าวว่า การอบรมให้ความรู้ในโครงการ จะมีระยะเวลา 8 สัปดาห์ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งด้านประวัติศาสตร์การเงินและอินเทอร์เน็ตของโลก การเกิดขึ้นและหัวใจสำคัญของบล็อกเชน ตลอดจนเทคโนโลยีที่มีโอกาสนำไปสู่ Mass Adoption ของภาคธุรกิจ อย่างเช่น NFT Metaverse DAOs DeFi และ CBDC คาดว่าจะรับจำนวนผู้อบรมในรุ่นแรกจำนวน 100-120 คน โดยจะมีทั้ง Tech Talent ตัวแทนจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วม
โดยภายหลังการอบรมเสร็จสิ้น จะเข้าสู่ช่วงของการให้ผู้อบรมเตรียมนำเสนอรายงานเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมพุ่งเป้าต่างๆ จากนั้นจะเป็นการจบส่วนของการ Incubate เพื่อเตรียมเข้าสู่ช่วงของ Accelerator ในการผลักดันโปรเจกต์ที่มีศักยภาพ สามารถนำไปใช้งานได้จริงภายใต้ Business Use Case ตลอดจนการกำกับดูแลของภาครัฐฯ เพื่อที่จะได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนการร่วมลงทุนของกองทุน VC ทั้งในและต่างประเทศ
ดร.นที เทพโภชน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการ CCC Academy จะเริ่มต้นในช่วงเดือนกันยายนปีนี้ ไปจนถึงสิ้นสุดโครงการ Accelerate ในเดือนมกราคมปี 2567