สรุปกรณีพรรคเพื่อไทย ออกนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท นโยบายนี้เป็นอย่างไร ทำเพื่ออะไร ทำไมต้องเป็น Digital Wallet ความแตกต่างเงินยุคใหม่ และเงินยุคเก่า
**นโยบายนี้เป็นอย่างไร ?
-จะมีการให้เงินจำนวน 10,000 บาท ใน Digital Wallet ของคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน ให้ใช้ภายใน 6 เดือน จับจ่ายใช้สอยในชุมชน รัศมี 4 กิโลเมตรนับจากที่อยู่ในบัตรประชาชน และเป็นการแจกให้ครั้งเดียว (ถ้าไม่มีร้านค้าระแวกนั้นสามารถขยายรัศมีได้)
-คนไทย 16 ปีขึ้นไปจะมี 2 บัญชี ได้แก่ บัญชีออมทรัพย์ที่ผูกกับธนาคารพาณิชย์ และ Digital Wallet ผูกกับบัตรประชาาชนอัตโนมัติ (จะมีการมอบกุญแจดิจิทัลให้ประชาชนเข้าถึงกระเป็าเงินดิจิทัลได้ )
-ร้านค้าต่างๆ มาลงทะเบียนเหมือนที่เคยทำมา คล้ายกับโครงการคนละครึ่ง
**ทำเพื่ออะไร ?
-กำหนดให้มีการใช้ภายใน 6 เดือน ตรงนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยอย่างรวดเร็ว
-เป็นมาตรการระยะสั้นที่ปลุกชีพเศรษฐกิจให้รีบฟื้นหลังได้รับผลกระทบจากโควิดมายาวนาน นอกจากนี้มีมาตรการอื่นรองรับให้เขาทำมาหากินได้เพิ่มด้วย
-ต้องการให้ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ขยายความเจริญสู่ภูมิภาค ดังนั้น ถ้าทำงานที่กรุงเทพ บ้านอยู่เชียงราย ก็ใช้ไม่ได้ ต้องกลับมาใช้ตามที่อยู่ในบัตรประชาชน
-สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ที่จะรองรับเศรษฐกิจทางดิจิทัล ระบบการเงินยุคใหม่ คือ ไร้ตัวกลาง และสนับสนุนด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน
**ทำไมต้องเป็น Digital Wallet ?
- เทคโนโลยีสมัยใหม่มันสามารถจำกัดการใช้งานได้ โดยบ่งบอกได้ว่าเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง รวมถึงสามารถป้องกันการใช้เงินที่รัฐบาลให้ในทางอื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น การซื้อเหล้า บุหรี่ หรือใช้หนี้นอกระบบ
-ส่วนการนำเงินใน Digital Wallet ไปใช้หนี้สถาบันการเงิน เป็นเรื่องที่ทางพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณา เพราะตรงนี้จะส่งผลดี คือ หนี้ครัวเรือนจะลด คนที่ติดเครดิตบูโร ก็กลับมากู้เงินได้
-เมื่อมีโครงสร้างพื้นฐานแล้วก็ต้องมีคนใช้ ดังนั้นต้องมีการดึงดูดให้คนมาใช้ ดังนั้นจึงทำให้เกิดเป็นการใส่เงินก้นถุง 10,000 บาท สร้างแรงจูงใจให้คนมาใช้ระบบการเงินยุคใหม่
**ความแตกต่างเงินยุคใหม่ และเงินยุคเก่า ?
-เงินยุคใหม่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้เราเขียนเงื่อนไขลงบนเงินได้ นี่คือความแตกต่างของ Digital Wallet และแอปเป๋าตังค์ ซึ่งเป็นเงินในโลกยุคเก่า
-บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยกว่าระบบการเงินปกติ
-ในอนาคตมันจะไปไกลถึงขั้นที่ว่า ถ้าเราอยากสนับสนุน SME เราสามารถเขียนได้ว่า เงิน 10,000 บาทนี้ กลายเป็น 12,000 บาท ถ้าเอาไปใช้กับ SME เขียน Code กำหนดได้ภายใน 5 นาที
-เมื่อมีการใช้เกิดขึ้น มันจะก้าวไปสู่ Digital Currency หรือ CBDC มองไกลถึงการให้เงินข้าราชการ จัดซื้อจัดจ้างโดยใช้ CBDC มองไกลถึงการใช้ CBDC ในการใช้จ่ายแบบทั่วไป
**งบประมาณจากไหน ?
-ส่วนหนึ่งมาจากการจัดสรรงบประมาณปี 67 ซึ่งยังไม่มีการทำ และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากการจัดเก็บภาษี VAT ที่เพิ่มขึ้น ภาษีนิติบุคคลจากการที่ห้างร้านที่ได้เงินเพิ่มขึ้น และสวัสดิการรัฐที่จะลดน้อยลงไป
**อื่น ๆ
-ไม่ยกเลิกบัตรคนจน แต่จะเป็นการเปิดให้ประชาชนเลือกระหว่างบัตรคนจนกับกระเป๋าเงินดิจิทัล
-เพื่อไทย มองว่า ถ้ามีโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลเมื่อไหร่ คนไทยจะไม่อยากกลับไปใช้บัตรคนจนอีกแล้ว ทำให้ลดงบประมาณรายได้ได้ถึง 5 หมื่นล้านบาท
-ถ้าทำได้ ไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการระดมทุน Digital Asset จะกลายเป็นศูนย์กลาง FinTech กลายเป็นศูนย์กลางบล็อกเชน และเศรษฐกิจดิจิทัล ทุกอย่าง หมายถึงรายได้จำนวนมหาศาลที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นการทำ Digital Wallet คือการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง
-ถ้าได้ทำ คาดว่าจะเปิดตัวช่วง 1 ม.ค. 67 เลย