พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

Sustainability

ESG Strategy

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

Date Time: 9 พ.ย. 2567 05:00 น.

Summary

  • บริษัท ซีเค เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP หนึ่งในบริษัทธุรกิจพลังงานชั้นนำของไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายประเภท โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานจากการผลิตไฟฟ้าและความร้อนควบคู่กัน (โคเจเนอเรชัน)

Latest

ทุนพัฒนาคนเพื่อความยั่งยืน

คอลัมน์ Sustainable Together สัปดาห์นี้ขอนำเรื่องราวของบริษัท ซีเค เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP หนึ่งในบริษัทธุรกิจพลังงานชั้นนำของไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายประเภท โดยเฉพาะพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานจากการผลิตไฟฟ้าและความร้อนควบคู่กัน (โคเจเนอเรชัน) บริษัทมีโรงไฟฟ้า 18 แห่งในประเทศลาวและไทย รวมกำลังการผลิตติดตั้งทั้งสิ้น 3,640 เมกะวัตต์

ในฐานะหนึ่งในผู้บุกเบิกและผู้นำการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคอาเซียนและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่ง ที่ผ่านมา ได้รับการจัดอันดับความยั่งยืน SET ESG Rating ที่ระดับ AAA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

ซึ่งเป็นการประเมินด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งวัดผลการดำเนินงานของบริษัท คือ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental), สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) เป็นการวิเคราะห์และประเมินว่าบริษัทมีการจัดการความเสี่ยงและโอกาสในด้านเหล่านี้ได้ดีเพียงใด เพื่อเป็นแนวทางให้กับนักลงทุนในการตัดสินใจลงทุนที่มีความรับผิดชอบ

การจัดอันดับ AAA แสดงให้เห็นองค์กรมีการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม ทั้ง 3 ด้าน โดยได้รับคะแนนสูงสุดในการจัดการความเสี่ยงและโอกาสในทุกด้าน เป็นมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนระดับสูงสุด

สำหรับผลการดำเนินการ ด้านการจัดการพลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทางซีเค เพาเวอร์ ได้แถลงว่า ในที่ผ่านมาบริษัทปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 0.0691 ตันคาร์บอนได ออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ต่อการผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) ซึ่งต่ำกว่าค่ากลางการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Thailand Grid) ที่ 0.4999 tCO2e/MWh ถึง 86%

ขณะที่ในครึ่งปีแรกของปี 2567 ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 83% คาดการณ์ตลอดปี 2567 ทั้งปีจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประเทศถึง 87%

ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2566 สามารถลดการใช้พลังงานได้รวม 5,101 MWh ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 2,051 tCO2e ซึ่งเทียบเท่ากับการจัดโครงการกรุงเทพฯปิดไฟ (Earth Hour 2024) เป็นเวลา 186 ชั่วโมง

ขณะที่ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทลดการใช้พลังงานได้ถึง 2,883 MWh ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1,313 tCO2e เทียบเท่ากับการจัด Earth Hour เป็นเวลา 119 ชั่วโมง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้ภาคการผลิตไฟฟ้าของไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ ซีเค พาวเวอร์ ย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเดินหน้าสู่เป้าหมาย CKP NET ZERO EMISSIONS 2050 โดยมุ่งเน้นให้บริษัทสามารถปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า พร้อมทั้งวางแผนระยะยาวในการลงทุนในโครงการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การศึกษาและพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจนร่วมกับก๊าซธรรมชาติซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า PDP2024 ของไทย

ในครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในการผลิตไฟฟ้าเกินเป้าหมาย 0.86% และยังได้เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนในองค์กร เช่น การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถไฮบริดในสำนักงานและโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหารของบริษัท

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจาก 89% เป็น 93% คิดเป็นการผลิตไฟฟ้าสะอาด 8.5 ล้านเมกะวัตต์-ชั่วโมง หรือ 17% ของการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในไทย

และในปี 2566 บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า พร้อมกับแผนการดำเนินการระยะยาวเพื่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในอนาคต.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ