คอลัมน์ Sustainable together สัปดาห์นี้ ได้มีโอกาสไปฟังมุมมองและแนวคิด “พสุ ลิปตพัลลภ” กรรมการบริหาร บริษัท พราว กรุ๊ป จำกัด นักธุรกิจหนุ่ม มุ่งดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง ESG การดูแลสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี และความยั่งยืน
โดยพสุเล่าว่า กลุ่มบริษัทพราวในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสวนน้ำ โรงแรมและร้านค้าปลีกในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และภูเก็ต ดังนี้ ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน รีสอร์ท มอลล์, ทรู อารีน่า หัวหิน, สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล สวนน้ำอันดับ 1 ในหัวหิน, สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต, โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ต การทำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต สวนน้ำ เป็นธุรกิจที่ใช้น้ำ ใช้ไฟจำนวนมาก ดังนั้นนับตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจจึงให้ความสำคัญและตระหนักการทำธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม จึงได้จัดทำโครงการ Project Pineapple by Proud Group หรือเส้นทางเพื่อความยั่งยืนและความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคมของกลุ่มบริษัทพราว
ที่มาของคำ “Pineapple” นั้น เกิดจากกลุ่มพราวก่อกำเนิดธุรกิจที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่ปลูกสับปะรดมากที่สุด ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะนำชื่อสินค้าชื่อดังของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาสร้างเส้นทางการรักษ์สิ่งแวดล้อมและมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม จากประจวบคีรีขันธ์ เชื่อมลงมาถึงภูเก็ต ด้วยเส้นทางที่มั่นคงและยั่งยืน
พสุเล่าต่อว่า โครงการ Pineapple by Proud Group คือโครงการบริหารทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ด้วยแนวคิด “Net Zero Waste. No Single-Use Plastic & Green Energy” มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด รวมถึงผลักดันการมีส่วนร่วมของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างการรับรู้ และสร้างแม่แบบ (Blueprint) การจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพและการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง และพร้อมส่งมอบอนาคตสีเขียวให้แก่คนรุ่นต่อไป
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มพราวได้ดำเนินการ “Net Zero Waste. No Single-Use Plastic & Green Energy” ผ่านกิจกรรมทั้งสร้าง ตระหนักรู้ จัดการและลดขยะ มีส่วนร่วมและการเสริมพลังชุมชน การอนุรักษ์เต่าทะเล และกิจกรรมคืนคุณค่าสู่สังคมเพื่อชุมชนที่ยั่งยืน ส่วนด้านพลังงานทดแทนนั้น เน้นพลังงานสะอาดและอาหารสีเขียว รวมถึงการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ บนหลักการทำงานเชื่อมโยงคน ชุมชน พลังงาน น้ำ และขยะอย่างครบวงจร ซึ่งกลุ่มพราวดำเนินการ มาอย่างต่อเนื่องสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 90,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งสะท้อนภาพการดำเนินธุรกิจของกลุ่มพราว ด้วยวิสัยทัศน์องค์กรแห่งความยั่งยืนที่สมบูรณ์แบบ”
นอกจากนั้น ยังมีการคืนคุณค่าสู่สังคม เพื่อชุมชนที่ยั่งยืน อาทิ สนับสนุนการขายสินค้า OTOP จากผู้ประกอบการภาคใต้และประจวบคีรีขันธ์ สร้างมูลค่าถึง 3.14 ล้านบาท ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและรักษ์สิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวที่ร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น รวมถึงสนับสนุนการศึกษา เปิดโอกาสการเรียนรู้ให้กับเด็ก และการดูแลสัตว์ในมิติต่างๆ อีกด้วย
“เราทำงานบนพื้นฐานการบริหารจัดการเชื่อมโยง 5 มิติหลักๆ คือ คน ชุมชน พลังงาน น้ำ และขยะ อย่างครอบคลุมและเป็นระบบ จ้างพนักงานท้องถิ่นและสนับสนุนอาชีพให้กับผู้บกพร่องทางร่างกาย ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน ปรับปรุงโครงสร้างอาคารตามมาตรฐานอาคารสีเขียว ใช้ระบบน้ำหมุนเวียนเพื่อประหยัดและใช้อย่างคุ้มค่า สร้างวงจรระบบจัดการขยะเศษอาหารที่มีประสิทธิภาพ เรามองทุกอย่างเป็นความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อเดินบนเส้นทางเพื่อความยั่งยืน เปรียบเหมือนกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนความภาคภูมิใจ สมกับชื่อกลุ่มบริษัทพราวของเรา”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่