หลังบีคอน วีซี CVC ในเครือธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศจัดตั้งกองทุน Beacon Impact Fund ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 พร้อมตั้งเป้าลงทุนมูลค่า 1,200 ล้านบาท ในธุรกิจด้าน ESG ล่าสุด ได้เผยความสำเร็จของการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก โดยลงทุนในสตาร์ทอัพและกองทุนไปแล้ว 4 ราย วงเงินกว่า 9 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 320 ล้านบาท
ธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) กล่าวว่า ในฐานะบริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย หนึ่งในผู้นำด้านการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพมาเป็นเวลานาน ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการลงทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีแรงผลักดันในการแก้ปัญหาต่างๆ ต่อสถานการณ์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) และถือเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญ เป็นโจทย์ที่ทุกภาคส่วนล้วนมองหา เพื่อปรับตัวและก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจแห่งความยั่งยืนไปด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตั้งแต่ บีคอน วีซี เปิดตัวกองทุน Beacon Impact Fund เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพื่อมุ่งเน้นการลงทุนโดยตรงในบริษัทสตาร์ทอัพหรือผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุนที่แสวงหาผลกำไรทั่วโลก ที่มีการพัฒนาโซลูชันสร้างผลกระทบเชิงบวกในมิติต่างๆ ของ ESG พร้อมศักยภาพที่จะขยายผลไปในวงกว้าง พบว่ากองทุนสามารถเติบโตได้ดี
โดยในปัจจุบัน Beacon Impact Fund ได้ร่วมลงทุนโดยตรงกับธุรกิจสตาร์ทอัพและผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วโลก ไปแล้ว 4 ราย ได้แก่
Algbra ธุรกิจสตาร์ทอัพผู้ให้บริการทางการเงินจากสหราชอาณาจักร ผู้พัฒนา Platform เพื่อให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศอังกฤษสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่สอดคล้องกับหลักทางศาสนาได้ เดินหน้าขยายบริการและมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบทางสังคม สำหรับผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วโลกให้มีโอกาสในการเข้าถึงบริการทางด้านการเงินดังกล่าวได้ง่ายและมีความเสมอภาคมากขึ้น
Wavemaker Impact ธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่มีเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกลงร้อยละ 10 และยังเป็นธุรกิจร่วมสร้างกลุ่มสตาร์ทอัพ (Venture Builder) ทางด้าน Climate Tech เจ้าแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) ที่รวบรวมผู้มีประสบการณ์เพื่อให้คำแนะนำ ร่วมสร้าง และสนับสนุนในด้านต่างๆ แก่สตาร์ทอัพใน Portfolio เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการสร้าง Climate Impact ที่ตั้งไว้
Quona Opportunity Fund ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) ผู้นำด้านการลงทุนเพื่อสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ผ่านการลงทุนใน Innovative Fintech Startup ในระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) โดยมีพันธกิจในการแก้ปัญหา ลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับการเข้าถึงบริการทางการเงินสำหรับกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง (Unserved Segment) และกลุ่มที่บริการทางการเงินยังตอบสนองได้ไม่เต็มที่ (Underserved Segment) ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักทั้งในทวีปเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ ให้สามารถเข้าถึง ได้รับโอกาส และประโยชน์จากบริการทางการเงิน
กองทุน Siam Capital เป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นโดย คุณสิตา จันทรมังคละศรี นักลงทุนหญิงชาวไทยที่สั่งสมประสบการณ์ในด้านการลงทุน และด้านความยั่งยืนมาอย่างยาวนานในสหรัฐอเมริกา
โดยกองทุน Siam Capital มุ่งเน้นการลงทุนที่จะช่วยเป็นส่วนนึงในการทำให้การบริโภคอย่างยั่งยืน หรือที่คุณสิตาเรียกว่า Conscious Consumption เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ หลากหลายแขนง อาทิ วัสดุที่ไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม ระบบการซื้อขายที่ลดการปล่อยคาร์บอน ไปจนถึงโซลูชันด้านการเงินที่ช่วยให้บริษัทที่ต้องการทำเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้าถึงทุนได้อย่างโดยง่าย โดยคุณสิตามีความคาดหวังที่จะนำเทคโนโลยีที่ลงทุนไปในโซนตลาดอเมริกา
นอกจากนี้ยังมีแผนการลงทุนโดยตรงในสตาร์ทอัพผู้ให้บริการโซลูชันด้านโซลาร์รูฟ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 1 ราย ทำให้ภาพรวมครึ่งแรกของปี 2566 กองทุน Beacon Impact Fund ให้เงินลงทุนเพื่อความยั่งยืนไปแล้วรวมทั้งสิ้น 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 320 ล้านบาท จากที่เป้าหมายการลงทุนตลอดปี 2566 ซึ่งตั้งไว้ที่ 400 ล้านบาท
ธนพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า บีคอน วีซี หวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงผลักดันและให้การสนับสนุนผู้คิดค้นนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่มีปณิธานในการแก้ปัญหาสำคัญที่พวกเราทุกคนและโลกใบนี้กำลังเผชิญ ตามเจตนารมณ์ของธนาคารกสิกรไทยที่มีความมุ่งมั่นจะยกระดับการดำเนินธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปูทางให้สังคมไทยและโลกใบนี้มุ่งสู่ความยั่งยืนที่แท้จริงไปด้วยกัน ทั้งนี้ กองทุน Beacon Impact Fund เป็นส่วนหนึ่งของเงินให้สินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing and Investment) ของธนาคารกสิกรไทย ที่มีเป้าหมายยอดรวมไม่น้อยว่า 1-2 แสนล้านบาท ภายในปี 2573