นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่สามารถส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งสูง หรือ Wealth Customers เพื่อให้ความมั่งคั่งทางการเงินดีขึ้นในทุกมิติ ผ่านบัตรเครดิต ttb reserve ที่ประสานโซลูชันทางการเงินระหว่างผลิตภัณฑ์ต่างๆ กับสิทธิประโยชน์ของการถือครองบัตรเครดิต เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์ที่มากขึ้น
โดย ttb reserve ถูกแบบการใช้งานภายใต้คอนเซปต์ earn fast burn smart รับคะแนนเร็ว เแลกคะแนนคุ้มค่ากว่า พร้อมสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นทุกการใช้จ่าย ต่อยอดความมั่งคั่งทั้งด้านการเงิน การลงทุน เมื่อเปิดใช้งานบัตรเครดิต ttb reserve จะได้รับสะสมพิเศษรายปีสูงสุด 180,000 คะแนน โดยไม่ต้องมีการใช้จ่ายผ่านบัตร และรับเพิ่มอีก 1 คะแนน ทุกการใช้จ่าย 10 บาท (ซึ่งบัตรทั่วไป 25 บาท รับ 1 คะแนน)
นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถนำคะแนนไปต่อยอดแลกรับสิทธิพิเศษด้านการลงทุนได้อีก เช่น ใช้เพียง 10,000 คะแนน แลกเป็นเงินลงทุนในรูปแบบเครดิตเงินคืนได้ 1,200 บาท หรือแลกเป็นเครดิตเงินคืน 1,000 บาท และยังแลกเป็นส่วนลดประกันได้อีกด้วย
จากการเปิดตัวบัตรเครดิต ttb reserve เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันทีทีบีได้มีการยึดโยงลูกค้าผ่านบัตรเครดิต ttb reserve เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการได้ดีขึ้นให้กับลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งสูง (Wealth) ไปแล้วกว่า 40,000 ราย
โดยมีมูลค่า AUM กว่า 5 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีลูกค้าถือครองบัตรเพิ่มขึ้นเป็น 45,000 รายภายในครึ่งปีแรกของปี 2567
ซึ่งจุดที่สร้างความแตกต่างให้กับบัตร ttb reserve คือการให้ความสำคัญกับ financial well being วางแผนโครงสร้างการบริหารชีวิตให้กับลูกค้า ดังนั้นธนาคารจึงได้ทำการลดมาร์จิ้นลง เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้น และสามารถต่อยอดความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน โดยในช่วงที่ผ่านมามีการแจกคะแนนให้กับลูกค้า 40,000 ราย ไปแล้วรวมกว่า 4,700 ล้านคะแนน
ปัจจุบัน ทีทีบี มีลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งสูง (Wealth) แบ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการสะสมความมั่งคั่ง ต้องการมีชีวิตที่มั่นคง อายุ 41-60 ปี ประมาณ 40% ซึ่งกลุ่มนี้จะมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง และรับความเสี่ยงสูงได้ และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่มีสินทรัพย์ที่มั่นคงอยู่แล้ว ต้องการส่งต่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนให้ลูกหลาน มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 50% เป็นกลุ่มที่ต้องการลงทุนแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็ยังคงมองหาการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เสี่ยงมาก ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นลูกค้ากลุ่ม Wealth ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี
ทั้งนี้ ทีทีบีมีแผนขยายกลุ่มลูกค้า Family หรือกลุ่มครอบครัว ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 19,000 รายของลูกค้า Wealth ทั้งหมด โดยแบ่งเป็น กลุ่มครอบครัวพ่อแม่ที่ต้องการวางแผนด้านการศึกษาเพื่ออนาคตของลูก ด้วยบริการบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit : FCD) ที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยสูงถึง 4.35% ต่อปี และกลุ่มครอบครัวสูงวัยที่ต้องการส่งต่อมรดกให้ลูกหลานแบบไร้กังวล กับโซลูชันในรูปแบบประกัน