ว่ากันว่า การไม่เป็น “หนี้” เป็นลาภอันประเสริฐ แต่การไม่มีหนี้เลย ก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะบ่อยครั้ง การที่เราไม่มีประวัติเครดิตบูโรในระบบเลย สถาบันการเงิน ไม่มีข้อมูลทำนายนิสัยทางการเงินของเรา ในอนาคตหากมีความจำเป็น การเข้าถึง “สินเชื่อ” อาจกลายเป็นเรื่องยาก
ตรงกันข้าม การเป็นหนี้สินยิบย่อย จ่ายเท่าไรก็ไม่มีวันหมด แถมมีหนี้ใหม่ๆ เพิ่มมาเรื่อยๆ นี่คือ หายนะทางการเงิน ที่ต้องเร่งหาทางแก้ไข แต่อย่างไรก็ตาม หากเราอยู่ในวังวนของการเป็นหนี้เข้าเสียแล้ว ก็อาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเรียนรู้เทคนิคการเคลียร์หนี้อย่างชาญฉลาด และสามารถบริหารจัดการหนี้ในแต่ละเดือนได้ดี เพราะนอกจากจะช่วยรักษาเครดิตกับสถาบันการเงินแล้ว ยังจะนำไปสู่ “อิสระทางการเงิน” ได้เร็วขึ้น และอาจมีเงินเหลือเก็บ เพื่อนำไปต่อยอดการลงทุน สร้างความมั่งคั่งกับตนเองได้ในอนาคตได้อีกด้วย
5 เทคนิคในการเคลียร์หนี้ จากข้อมูล เอสซีบี อบาคัส (SCB Abacus) บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งสามารถทำตามง่ายๆ มี ดังนี้
1. หยุดเพิ่มหนี้ หากรู้สึกว่าช่วงนี้รายจ่ายที่มีเริ่มตึงไปและควบคุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หากต้องการลงทุนให้ประเมินได้ว่าไม่เกินกำลังตัวเองและรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้
2. รวบรวมรายการหนี้ทั้งหมด ทบทวนตัวเองอีกทีว่ามีหนี้ที่ไหน คิดอัตราดอกเบี้ยเท่าไรบ้าง และอ่านสัญญาให้ชัดเจนว่ามีกำหนดชำระครบวันไหน แนะนำให้ทำตารางลำดับความสำคัญของหนี้โดยคำนึงถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุด ให้จ่ายก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งจะช่วยลดค่าดอกเบี้ยในเดือนถัดๆ ไป (กรณีลดต้นลดดอก)
ทีนี้เราก็จะเรียงลำดับความสำคัญของหนี้สินแต่ละก้อนและสามารถประเมินตนเองได้ว่าควรหารายได้ต่อเดือนให้มากกว่ายอดหนี้ทั้งหมด หรือควรลดรายจ่ายบางส่วนที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้มีเงินเหลือพอกับรายจ่ายที่จะเกิดขึ้น
3. จ่ายมากกว่าขั้นต่ำ ในแต่ละเดือนจะมีกำหนดยอดที่ต้องชำระค่างวด ควรชำระตามยอดที่ระบุ หรือมากกว่าขั้นต่ำจะช่วยให้ดอกเบี้ยในเดือนถัดไปลดลง (กรณีลดต้น-ลดดอก) แต่หากใครอยากเคลียร์หนี้ให้หมดไวแนะนำให้จ่ายมากกว่ายอดกำหนดชำระ หรือ มีงบให้โปะเลยในแต่ละเดือนจะช่วยปิดยอดหนี้ได้ไวขึ้น แนะนำเลือกชำระกับสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน เพื่อให้ในเดือนถัดไปดอกเบี้ยจะได้ลดลงและทำให้คุณผ่อนได้สบายมากขึ้น
4. จ่ายให้ตรงกำหนด ต้องมีวินัยในการชำระค่างวดเพื่อให้เงินต้นและดอกเบี้ยไม่พอกพูน ช่วยให้แต่ละเดือนผ่อนชำระได้สบายๆ ตามที่ประเมินไว้ล่วงหน้าแล้วและสิ่งที่สำคัญเลย “ช่วยรักษาเครดิตของคุณ” ให้มีประวัติที่ดีส่งผลให้ในอนาคตได้รับข้อเสนอพิเศษจากสถาบันการเงิน เช่น การเพิ่มวงเงิน เป็นต้น และในอนาคตยังช่วยให้มีโอกาสอนุมัติสินเชื่อในครั้งถัดไปง่ายขึ้นด้วย
5. หารายได้เสริมและเพิ่มเงินออม ลองประเมินรายรับของตัวเองกับยอดหนี้ หากมียอดหนี้มากกว่า 50% ควรมองหารายได้เสริมเพิ่มเพื่อนำเงินส่วนนั้นมาชำระค่างวดให้ตรงกำหนด หรือโปะเพิ่มในแต่ละเดือน รวมไปถึงหากมีเงินเหลือจะได้ออมเงินเพิ่มไว้สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย
ที่มาข้อมูล : SCB Abacus