รู้ทันกลโกง “บัญชีม้า” วิธีรับมือ เมื่อตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกเปิดบัญชี-โอนเงิน ทำอย่างไร

“บัญชีม้า” กลายเป็นปัญหาระดับชาติ และเป็นเครื่องมือฟอกเงินผิดกฎหมาย โดยมีประชาชนเป็น “เหยื่อ” ร่วมกระทำผิดทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ แม้แบงก์ชาติจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับมาตรการปราบปรามบัญชีม้า

โดยตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป ธนาคารจะต้องระงับการโอนเงินเข้า-ออกจากบัญชีม้าสีดำและสีเทา ซึ่งเป็นบัญชีที่ได้รับการยืนยันว่ากระทำความผิดทางการเงินจาก ปปง. และถูกแจ้งความจากผู้เสียหาย รวมถึงปิดกั้นไม่ให้บัญชีม้าดังกล่าวกลับมาเปิดใช้งานได้อีก

แต่มาตรการที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถหยุดวงจรนี้ได้ เนื่องจากมิจฉาชีพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพัฒนากลโกงใหม่ๆ มาหลอกเหยื่ออย่างต่อเนื่อง ทำให้แม้จะระงับบัญชีม้าได้มากขึ้น แต่ก็มีบัญชีม้าเปิดใหม่เพิ่มขึ้นทุกวันเช่นกัน

Thairath Money สรุปวิธีสังเกตกลโกงมิจฉาชีพ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อบัญชีม้า พร้อมแนวทางรับมือเมื่อตกเป็นเหยื่อต้องทำอย่างไรต่อ

บัญชีม้าคืออะไร

คือบัญชีที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อใช้ทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยมักถูกใช้รับ-โอนเงินผิดกฎหมายในวงการพนันหรือยาเสพติด โดยชื่อบัญชีกับเจ้าของตัวจริงมักไม่ตรงกัน เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินไม่ให้โยงไปถึงผู้กระทำผิดตัวจริงได้ ทั้งนี้การได้มาซึ่งบัญชีม้า ปกติจะมีนายหน้าจ้างวานให้บุคคลทั่วไปเปิดบัญชีธนาคารให้ แลกกับค่าจ้างตามที่ตกลง โดยมุ่งเป้าไปที่เหยื่อที่เป็นวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุที่ต้องการเงินหรือมีความรู้ทางการเงินต่ำ

แต่หลังจากการเข้ามาของ mobile banking ซึ่งเราสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้ทันที ใช้เวลาไม่ถึงนาที เงินก็ถูกถ่ายโอนไปบัญชีอื่นได้อย่างเสรี ทำให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี สร้างบัญชีม้าเพิ่มเพื่อหลอกเอาเงินประชาชน

รู้ทัน 4 กลโกงบัญชีม้าพบบ่อย

1. ประกาศรับสมัครงานออนไลน์และหลอกให้เปิดบัญชี mobile banking และบังคับให้ส่งข้อมูลส่วนตัวทั้งรหัสบัตรประชาชนหรือรหัส OTP

2. ให้กู้เงินออนไลน์โดยจะหลอกล่อให้เหยื่อเปิดบัญชีและส่งข้อมูลส่วนตัวมาให้ก่อนทำการกู้ยืม

3. เชิญชวนเล่นพนันออนไลน์โดยจะหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารไว้สำหรับรับเงินจากการเล่นการพนัน

4. แอบอ้างเป็นหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐฯ ขู่ดำเนินคดีและบังคับให้ส่งข้อมูลส่วนตัวเพื่อตรวจสอบการกระทำผิด

วิธีป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อบัญชีม้า

1. ไม่รับสายเบอร์แปลก

การใช้เบอร์โทรแล้วแอบอ้างเป็นคนรู้จักหรือเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อหลอกล้วงข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีม้า เป็นวิธีที่มิจฉาชีพนิยมและใช้ได้ผลมากที่สุด ดังนั้นหากไม่มีความจำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะรับสายเบอร์ที่ไม่รู้จัก หากจำเป็นต้องรับสาย สามารถตรวจเบอร์ของคนที่โทรเข้ามาเบื้องต้นได้ที่แอปพลิเคชัน เช่น whoscall, showcaller, หรือ call control หากพบว่าเป็นเบอร์ต้องสงสัยหรือเป็นเบอร์มิจฉาชีพจริงๆ ให้บล็อกเบอร์โทรศัพท์ เพื่อป้องกันไม่ให้โทรมาก่อกวนอีก หรือรายงานไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่เราใช้บริการเพื่อบล็อกเบอร์ เช่น AIS โทร. 1185 True โทร. 9777 และ Dtac โทร. 1678 ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพใช้เบอร์นี้ในการไปหลอกลวงคนอื่นได้อีก

2. ไม่คลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดแอปฯ ที่คนแปลกหน้าส่งให้

เพื่อป้องกันโดนควบคุมโทรศัพท์จากทางไกล หากมิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่เราหลงให้ไปด้วยความยินยอมเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะเปิดช่องให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารที่เรามีแอปฯ ในโทรศัพท์เครื่องนั้นได้ หากหลวมตัวคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแปลกๆ ไปแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

• เพื่อตรวจสอบว่าถูกควบคุมโทรศัพท์ไปหรือยัง ให้เข้าไปที่หน้าการตั้งค่าและทดลองรีเซตเครื่อง ถ้าเข้าไม่ได้หรือเข้าแล้วหน้าจอเด้งออกมาที่หน้าหลัก แสดงว่าถูกควบคุมหรือโจมตีไปแล้ว เพราะฉะนั้น ห้ามกดยืนยันใดๆ เด็ดขาด แล้วรีบทำตามข้อต่อไป
• หากแน่ใจว่าถูกควบคุมโทรศัพท์ ให้รีบปิดการรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตของโทรศัพท์มือถือ จะเปิด airplane mode หรือจะปิดเครื่อง ถอดซิม ถอดแบตเตอรี่ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพื่อตัดการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ของมิจฉาชีพมาที่โทรศัพท์ของเรา ทำการรีเซตโทรศัพท์ใหม่ทั้งหมด หรืออาจทำ factory reset เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานโทรศัพท์เครื่องเดิมต่อไป

3. อย่าเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่น

อย่าให้บุคคลอื่นใช้ชื่อของเราในการเปิดบัญชีธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรู้จัก หรือบุคคลที่ไม่คุ้นเคย เพื่อป้องกันถูกแอบอ้างชื่อใช้เป็นบัญชีม้า ซึ่งแม้ว่าเราจะไม่มีส่วนรู้เรื่องธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่ก็มีบทลงโทษในฐานะยินยอมให้ใช้ชื่อเปิดบัญชี โดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับ

ตกเป็นเหยื่อบัญชีม้าต้องทำอย่างไรต่อ

1. ติดต่อธนาคารทันที
เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า ไม่ว่าจะเป็นการถูกล้วงข้อมูล ข้อมูลรั่วไหล หรือถูกหลอกให้โอนเงิน ให้รีบติดต่อติดต่อสายด่วน (Hotline) หรือศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินของธนาคารแต่ละแห่ง เพื่อแจ้งขออายัดบัญชีปลายทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยธนาคารจะอายัดบัญชีม้าดังกล่าวทันทีเป็นเวลา 72 ชั่วโมง

รวมเบอร์ติดต่อธนาคารแจ้งเหตุภัยการเงิน

ธนาคารกรุงไทย : 0-2111-1111 กด 108
ธนาคารยูโอบี : 0-2344-9555
ธนาคารออมสิน : 1115 กด 6
ธนาคารไทยพาณิชย์ : 0-2777-7575
ธนาคารกรุงเทพ : 1333 หรือ 0-2645-5555 กด *3
ธนาคารกสิกรไทย : 0-2888-8888 กด 001
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา : 1572 กด 5
ธนาคารทหารไทยธนชาต : 1428 กด 03
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ : 0-2359-0000 กด 8
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ : 0-2645-9000 กด 33
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร : 0-2555-0555 กด *3

2. แจ้งความกับตำรวจ
ในช่วง 72 ชั่วโมงนี้ เราจะต้องแจ้งความกับตำรวจที่สาขาใดก็ได้ หรือผ่านทางตำรวจออนไลน์บนเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.com เพื่อให้ตำรวจทำงานร่วมกับธนาคารในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยืดเวลาระงับบัญชีต่อไปอีก 7 วัน โดยหากมีมูลเหตุเข้าข่ายการกระทำความผิด ตำรวจจะส่งหมายให้ธนาคารอายัดบัญชีจนกว่ากระบวนการสืบสวนจะแล้วเสร็จ

บทลงโทษบัญชีม้า

• เปิด/ขาย/ให้เช่า/ให้ยืม จำคุก 3 ปี หรือปรับ 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
• เป็นธุระจัดหา/โฆษณา จำคุก 2-5 ปี หรือปรับ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ปัจจุบันสถาบันการเงินและผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์จะต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยการเงิน หลังจากเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา ครม. เห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ พ.ร.ก. ไซเบอร์ ซึ่งขณะนี้แบงก์ชาติในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงิน อยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของธนาคารเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

อ้างอิง

ธปท., สมาคมธนาคารไทย

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney