การบริหารจัดการเงินส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ เพราะการจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เรามี "การเงินดี ชีวิตดี" แต่ “ภาระหนี้สิน” ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้น การจัดการหนี้สินให้ดีมีความสำคัญมาก เพราะหนี้สินที่สูงเกินไปอาจทำให้เรามีปัญหาการเงินในระยะยาว
ทั้งนี้ เราควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างหนี้กับรายได้ เพื่อไม่ให้มีหนี้มากเกินกว่าความสามารถในการจ่ายคืน และการบริหารหนี้อย่างรอบคอบ จะช่วยให้เรามีสุขภาพการเงินที่ดี และสามารถจัดการรายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในครั้งนี้ “Thairath Money” จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการคำนวณ DSR (Debt Service Ratio) หนึ่งในวิธีที่ใช้วัดสุขภาพการเงินที่บอกเราว่า ภาระหนี้สินต่อรายได้อยู่ที่เท่าไร ซึ่งสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ระบุไว้ว่า ตามหลักสุขภาพการเงินที่ดีแล้ว DSR ไม่ควรเกิน 40%
สมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้เผยแพร่บทความ “จ่ายหนี้ต่อเดือน แค่ไหนที่เรียกว่าไหว” โดยระบุว่า การสำรวจว่าตัวเองมีภาระหนี้แต่ละเดือนมากน้อยแค่ไหน สามารถคำนวณได้จาก DSR ย่อมาจาก Debt Service Ratio หมายถึง อัตราส่วนเงินสำหรับใช้ผ่อนชำระหนี้กับรายได้ในแต่ละเดือน ซึ่งตามหลักสุขภาพการเงินที่ดี DSR ไม่ควรเกิน 40% ดังนี้
สูตรคำนวณ DSR = (ภาระหนี้ต่อเดือน ÷ รายได้ต่อเดือน) x 100
โดยหนี้สินที่นำมาเพื่อตรวจสุขภาพทางการเงินจะเป็นหนี้สินปัจจุบันต่อเดือน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนรายได้ที่นำมาคำนวณจะเป็นรายได้ต่อเดือนทั้งหมด เช่น เงินเดือน รายได้พิเศษ เป็นต้น
หากต้องการทำให้สุขภาพการเงินมีความแข็งแรง นอกจากการลดค่าใช้จ่ายแล้ว การหยุดก่อหนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี และควรเริ่มต้นด้วยการหยุดกู้ยืมก้อนใหม่ ถัดมา คือ ใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น หากทำได้จำนวนหนี้ที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนจะลดลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวหรือเกิดวิกฤติ การก่อหนี้อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาทางการเงินในอนาคต การเริ่มต้นด้วยการประเมินสถานการณ์ทางการเงินของตัวเอง ตรวจสอบรายรับ รายจ่าย เงินออม และภาระหนี้ที่มีอยู่ คำนวณให้ชัดเจนว่าคุณสามารถผ่อนชำระหนี้ได้หรือไม่ รวมถึงพิจารณาความมั่นคงของงานและรายได้ในระยะยาว
และหากต้องกู้ยืม ควรกู้เฉพาะในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ หลีกเลี่ยงการกู้เงินเพื่อใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น และควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้ได้สินเชื่อที่เหมาะสมที่สุด
นอกจากนี้ การชำระหนี้คืนตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการเงินที่ลุกลามใหญ่โต
หากรู้สึกไม่แน่ใจในกระบวนการก่อหนี้หรือการจัดการหนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน นักวางแผนการเงิน หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อ เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสม
อ่านข่าวกับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้