กว่า “เด็ก” หนึ่งคนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้ มันไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่ใช้ระยะเวลานับสิบปี ดังนั้น “แม่” จึงเปรียบเสมือน “ครู” คนแรกของชีวิตลูก ที่จะช่วยวางรากฐานทางการเงินที่มั่นคงให้กับลูกได้ นั่นก็เพราะวินัยทางการเงินคือ สิ่งที่ควรปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่นับเลขได้ ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนการเงินที่ดี และยกระดับคุณภาพชีวิตในอนาคตได้เช่นกัน จึงไม่แปลกที่ทุกๆ คำสอนของแม่ ทุกๆ ก้าวที่คุณแม่ก้าวไป คือการปูทางสู่อนาคตที่มั่นคงให้กับคนเป็นลูก
ในครั้งนี้ Thairath Money ได้สรุป 15 ข้อคิด “สอนลูกเรื่องเงิน” จากงานทอล์ก “Money สไตล์แม่” ไว้ดังนี้
- แม้เงินไม่ใช่พระเจ้า เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่เงินเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ และเราทุกคนต้องทำงานเพื่อแลกเงิน
- ต้องเริ่มสอนการเงินให้เด็กตั้งแต่นับเลขได้ และใช้โอกาสในชีวิตประจำวันสื่อสารเรื่องเงิน หาโอกาสพาไปจ่ายตลาด ซื้อของ
- รู้คุณค่าของเงินและการใช้เงินอย่างชาญฉลาด ต้องรู้จักเลือก รู้จักคำนวณราคาต่อหน่วย รู้จักเปรียบเทียบและเลือกซื้อ
- ต้องมีความอดทน อดกลั้น อดออม และลงทุนเพื่อความมั่นคงในชีวิต
- ถ้าอยากให้ลูกรู้จักออม ต้องให้ลูกลองเจอกับคำว่า “ขาด” และลูกจะรู้เองว่าการออมสำคัญอย่างไร และที่มากกว่าคำสอน คือ การทำให้ลูกเห็น
- ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ถ้าอยากได้อะไร ต้องแลกกับการทำความดี สะสมแต้ม แล้วจะได้รางวัล
- นักลงทุนไม่ว่าจะเก่งขนาดไหน สามารถ “พอร์ตแตก” ได้ ถ้าไม่มีการ “บริหารการเงิน” ที่ดี
- สอนให้เด็กรู้จักการ “ให้” ตั้งแต่ทำบุญ บริจาค จิตอาสา ไปจนถึงการให้อภัย
- สอนเรื่องศีลธรรมว่าเงินต้องได้มาอย่างสุจริต และหลีกเลี่ยงการพนัน
- ลองให้หาเงินด้วยตัวเอง รู้วิธีเพิ่มเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ที่ไม่ใช่แค่การขอเงินจากคุณพ่อคุณแม่ แต่อาจนำความรู้ ความสามารถพิเศษมาสร้างเงินได้
- พ่อ แม่ คือครูคนแรกของลูก จึงควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกด้วยการบริหารเงินให้ลูกดู
- ปล่อยให้ลูกลองผิดลองถูก ลูกจะเรียนรู้ ล้มและลุกเป็น
- อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน พ่อแม่ปูทางให้ แต่ลูกต้องอยู่เองได้ โตเองเป็น จัดการเงินตัวเองได้
- เงินส่วนตัว ไม่เท่ากับ เงินธุรกิจ ลูกต้องบริหารเงินเป็น แยกบัญชีธุรกิจให้ปัง บัญชีส่วนตัวไม่พัง และอยู่ได้ด้วยตัวเอง
- แยกให้ออกระหว่าง สิ่งที่จำเป็น vs สิ่งที่อยากได้