ธปท.เกาะติดสภาพคล่องตึงตัว

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานผู้บริหาร ธปท.พบสื่อถึงทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป ว่า จุดยืนของ ธปท.เรื่องดอกเบี้ยนโยบายจะมาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่จะเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยดูทั้งจากการเติบโตของเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพของระบบการเงิน ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางที่ ธปท.คาดการณ์ แต่อาจมีความสี่ยงด้านต่ำมากขึ้น เงินเฟ้อต่ำกว่าขอบล่างแต่กำลังจะเข้าสู่กรอบล่างของกรอบนโยบายการเงิน ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ติดตามมากขึ้นคือ การดูแลสภาพคล่องทางการเงินที่มันตึงตัวขึ้น การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่ยากมากขึ้น และอาจจะกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจและส่วนบุคคล โดยสิ่งที่อยากจะบอกคือ มีแนวโน้มปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินได้มากขึ้น หากพบว่า สภาวะการเงินตึงตัวเกินไป

ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น เปิดกว้างมากขึ้นและปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินได้มากขึ้น หากมองว่าสภาพคล่องที่หายไปคือ การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น ธปท.เข้าใจ หากธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยสินเชื่อเพราะลูกค้ามีความเสี่ยงมากขึ้นแต่ที่เป็นห่วงคือ ธนาคารพาณิชย์จะกังวลหนี้เสียมากเกินไป ทำให้คนไม่ได้รับเงินหมุนเวียนเพียงพอ จุดนี้ ธปท.เตรียมที่จะเข้าไปดูแล 3 เรื่อง คือ การสร้างกลไกให้ธนาคารพาณิชย์ หรือเจ้าหนี้มีข้อมูลมากขึ้นเพื่อเห็นความเสี่ยงของลูกหนี้มากขึ้น การตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (นากก้า) และหลังจากนั้น สิ่งที่คิดกันคือ อาจใช้การคิดดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของลูกหนี้ ซึ่งอาจจะสูงกว่าปกติ แต่ยังต่ำกว่าหนี้นอกระบบ

ผู้ว่าการ ธปท.ยืนยันว่า ธปท.พร้อมที่จะทำงานกับทุกฝ่าย แต่ต้องเข้าใจว่า ธปท.มีหน้าที่ดูแลเรื่องเสถียรภาพ ก็จะมีจุดยืนในส่วนนี้มากหน่อย แต่ที่ผ่านมายืนยันว่า ธปท.ได้หารือกับกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่องในเรื่องหลักๆ แต่ไม่ได้มีภาพออกไปที่สื่อ ถือเป็นสัญญาณความร่วมมือที่ดีที่จะทำงานร่วมกันมากขึ้นจากนี้.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่