ก่อนหน้านี้ไม่นาน มีกระทู้หนึ่งในเว็บไซต์ pantip.com ตั้งถามเพื่อนสมาชิก ด้วยหัวข้อ : อยากรู้ว่า “คนรวย” เขาทำอย่างไรให้ตัวเองรวย? ซึ่งคนรวยดังกล่าวในนิยามส่วนตัวนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่คนรวยระดับพันล้าน แต่เป็นคนที่มีเงินพอจะฟุ่มเฟือยกับของใช้ต่างๆ ได้ วันหยุดก็ไปเที่ยว มีเงินใช้จ่ายอย่างที่ต้องการ แค่นี้ก็อาจเรียกเป็น “คนรวย” สำหรับตัวเองได้แล้ว
แต่สิ่งที่สงสัยอย่างแท้จริง หากแต่เป็นคำถามที่ว่า แล้วคนที่อยู่ในชนชั้นกลุ่มคนรวย หรือที่เรียกว่า “เศรษฐี” แล้วจริงๆ พวกเขาเหล่านั้นมี Mindset หรือมุมมองทางการเงิน และการใช้ชีวิตอย่างไร จนพาตัวเองขึ้นไปถึงจุดนั้นๆ ได้
ในบทความนี้ Thairath Money จะชวนมาหาคำตอบ
อ้างอิงข้อมูลเผยแพร่ของผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน Wealth Advisory by CIMB THAI Bank ได้อธิบายเอาไว้เกี่ยวกับหนทางสู่ความรวย ซึ่งเป็นข้อสรุป จากการสัมภาษณ์เศรษฐี 225 คน ของ Tom Corley นักบัญชีและนักวางแผนการเงิน เมื่อปี 2004 ซึ่งใช้เวลา 5 ปี ในการศึกษาว่าเศรษฐีมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการเงินของพวกเขาเอง
โดยพบว่านิสัยของเศรษฐีแต่ละคน ให้ความสำคัญทางการเงิน แบ่งเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
1. การออมและลงทุน (Saver-Investors)
ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานอะไร ก็จะให้ความสำคัญกับการออมและลงทุน พวกเขาคิดหาวิธีที่จะทำให้การเงินของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมั่งคั่งอยู่เสมอ
2. ให้ความสำคัญกับหน้าที่การงาน (Company Climbers)
เศรษฐีบางคนให้ความสำคัญกับการเติบโตในหน้าที่การงาน โดยการมุ่งไปสู่บริษัทใหญ่ ทุ่มเทเวลาและพลังงานเพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นจนกว่าจะถึงระดับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งได้รับเงินเดือนในระดับสูง
3. มีความรู้และประสบการณ์สูง (Virtuosos)
บางคนเป็นคนเก่งที่สุดในสิ่งที่ทำ และได้รับค่าตอบแทนสูงจากความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งพวกเขาเหล่านี้มักจะมีการศึกษาระดับสูง เช่น ด้านกฎหมาย, ด้านการแพทย์ เป็นต้น
4. เดินทางตามความฝัน (Dreamers)
บุคคลในกลุ่มนี้ต่างเดินตามความฝัน เช่น เริ่มต้นธุรกิจของตนเอง, เป็นนักแสดง, นักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ, หรือเป็นผู้เขียนที่ขายดีที่สุด ซึ่งปัจจุบันบุคคลกลุ่มนี้จะรักในงานที่ตัวเองทำ เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น และสะท้อนกลับมาเป็นเงินในบัญชีธนาคารของพวกเขา
88% ของเศรษฐี 225 คน กล่าวว่า “การออม” คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อการประสบความสำเร็จทางการเงินในระยะยาว ซึ่ง Tom Corley ได้สรุป 3 ลักษณะนิสัยสำคัญจากข้อมูลข้างต้นมา เพื่อให้คนทั่วไปสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับตัวเอง ได้แก่
1. ออมเงิน 20% จากรายได้ที่ได้รับโดยอัตโนมัติ
จากการสัมภาษณ์พบว่า เศรษฐีให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุน ซึ่งพวกเขาจะออมเงิน 20% หรือมากกว่านั้นจากรายได้ที่ได้รับ และส่วนใหญ่มักจะจัดการให้มีการออมเงินโดยอัตโนมัติ เช่น 10% ออมเงินผ่านกองทุน และอีก 10% ตัดเงินเข้าบัญชีเงินออมส่วนตัว เป็นต้น
2. ลงทุนอย่างสม่ำเสมอจากส่วนหนึ่งของเงินออม
เนื่องจากลงทุนเงินออมอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงเริ่มต้นกำไรจากการเงินลงทุนอาจไม่มาก แต่หลังจากผ่านไป 10 ปี พวกเขาก็สามารถได้กำไรจากดอกเบี้ย และช่วยเพิ่มความมั่งคั่งได้อย่างมาก จากการศึกษาพบว่า ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิตการทำงาน ความมั่งคั่งของเหล่า Saver-Investors เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 3.3 ล้านดอลลาร์ ณ วันทำงานปีสุดท้าย
ส่วนกลุ่มที่ทำตามความฝันและเริ่มทำธุรกิจ (Dreamer-Entrepreneurs) ที่ตั้งบริษัทของตัวเอง ไม่มีความสามารถในการออมเงินเพื่อลงทุนได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการตามฝันหรือทำธุรกิจ เงินออมที่พวกเขามีก็ถูกใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนความฝันและธุรกิจของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อคนส่วนใหญ่ของ Dreamer-Entrepreneur เริ่มประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะเปลี่ยนทิศทางทันที และเริ่มลงทุนจากรายได้ของพวกเขา
3. ประหยัดให้มากที่สุด
หนึ่งในลักษณะนิสัยที่เหมือนกัน ทั้งกลุ่ม Saver-Investors, Company Climbers หรือ Virtuosos ทุกคนล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการประหยัดเงิน ซึ่งการประหยัดนั้นต้องอาศัย 3 องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่
ท้ายที่สุด แม้การประหยัดอย่างเดียวอาจไม่ทำให้ร่ำรวยได้ แต่เป็นส่วนหนึ่งของความรวย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถออมเงินได้มากขึ้น และลงทุนได้มากขึ้น
ที่มา : CIMB THAI Bank
อ่านข่าวหุ้น ข่าวทองคำ และข่าวการลงทุนและการเงิน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney