นพวรรณ รัตนเวคิน รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล เปิดเผยว่า ล่าสุดธนาคารออมสินได้ร่วมกับ บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TIPlife หนึ่งในพันธมิตรของธนาคารออมสิน เปิดตัว บัตรเดบิต ออมสิน อุ่นใจ บัตรเดบิตใบแรกที่มาพร้อมประกันชีวิต ซึ่งนอกจากตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายแบบ สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ที่มีความปลอดภัยในการทำธุรกรรมแล้ว ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านความคุ้มครองชีวิต ที่มากกว่าบัตรเดบิต ที่มีความคุ้มครองเฉพาะกรณีอุบัติเหตุในตลาดปัจจุบัน
บัตรเดบิต ออมสิน อุ่นใจ เป็นบัตรเดบิตที่มาพร้อมกับบริการเพิ่มความคุ้มครองให้กับผู้ถือบัตร จากการเสียชีวิตทุกกรณี ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกสถานที่ทั่วโลก ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มทุกวัย ทั้งวัยทำงาน และผู้สูงวัย ที่ไม่สามารถทำประกันชีวิตกับบริษัทประกันอื่นๆ ได้ โดยมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับบัตรใหม่ 100 บาท และค่าธรรมเนียมรายปี 1,599 บาท หรือคิดแล้วเฉลี่ยเพียงวันละ 4.38 บาท
โดยผู้ที่ถือบัตรเดบิต ออมสิน อุ่นใจ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 12-75 ปี จะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องจนถึงอายุ 80 ปี โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย วงเงิน 400,000 บาท กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั่วไป วงเงิน 500,000 บาท และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณภัย ให้ความคุ้มครองสูงถึง 600,000 บาท และยังสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากอุบัติเหตุตามจริง วงเงิน 30,000 บาท ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ สามารถสมัครใช้บริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ
นพพร บุญลาโภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิพยประกันชีวิต เป็นพันธมิตรที่ดีของธนาคารออมสิน โดยได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาช่วยลดและกระจายความเสี่ยงของกลุ่มลูกค้าธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าสินเชื่อ ลูกค้าที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต ลูกค้าที่ซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี ซึ่งบัตรเดบิต ออมสิน อุ่นใจ เป็นความตั้งใจของทั้งสององค์กรที่ต้องการให้คนไทยเข้าถึงประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น ในราคาเพียง 1,599 บาท ด้วยความคุ้มครองถึง 2 ต่อ ต่อแรกจากธนาคารออมสิน มอบความคุ้มครองทางด้านการเงิน จับจ่ายอย่างอุ่นใจและปลอดภัย ต่อที่ 2 จากทิพยประกันชีวิต โดยมอบความคุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 600,000 บาท สมัครได้ง่ายๆ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงแค่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ณ วันที่ขอใช้บริการบัตร
“เราคาดหวังว่าความร่วมมือนี้จะทำให้คนไทยเข้าใจและเข้าถึงประกันชีวิตมากยิ่งขึ้น ได้ใช้ชีวิตอย่างอุ่นใจ ช่วยแบ่งเบาภาระ สร้างหลักประกันและความมั่นคง ภายใต้การใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยงต่างๆ ในปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต สุขภาพร่างกาย การงาน การเงิน ตลอดจนความมั่นคงต่างๆ และเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด ก็จะมีประกันชีวิตเข้ามาช่วยเหลือดูแลให้คนข้างหลังได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ติดขัด”