สัมมนา THE WISDOM Wealth Decoded ชี้ AI ปฏิวัติโลก “การลงทุน”

Personal Finance

Banking & Bond

Content Partnership

Content Partnership

Tag

สัมมนา THE WISDOM Wealth Decoded ชี้ AI ปฏิวัติโลก “การลงทุน”

Date Time: 4 มิ.ย. 2567 10:56 น.
Content Partnership

Summary

  • เมื่อโลกเปลี่ยน การลงทุนต้องปรับ “นักลงทุน” ที่จะอยู่รอด คือ นักลงทุนที่รู้จักเทรนด์ เพื่อรับมือกับความผันผวน AI คือคำตอบแห่งยุคที่จะมาปฏิวัติโลกการลงทุน

“การนำเทคโนโลยีมาใช้ จะทำให้คนธรรมดาเก่งขึ้นมาได้ และจะทำให้โลกการลงทุนจะเปลี่ยนไปเยอะมาก เพียงแต่ต้องใช้ AI ให้เป็น ซึ่งจำเป็นมากที่จะต้องตามให้ทัน เพราะเรายังต้องเจอความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีไม่รู้อีกกี่ S-Curve”

กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล
ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG
กล่าวในงาน THE WISDOM Wealth Decoded Exclusive Talk ภายใต้หัวข้อ “Tech Trend Talk”

เพราะในช่วงที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกประเทศต่างก็เจอกับสภาวการณ์ความผันผวน ที่ยากจะเกินคาดเดา โดยเฉพาะมิติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลโดยตรงต่อโลกการเงิน ธุรกิจ และการลงทุน ดังนั้นทางออกของเรื่องนี้คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากการมี “เทคโนโลยี” เข้ามาช่วยรับมือกับความท้าทายในโลกยุคดิจิทัลท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวนที่เกิดขึ้น

ดังนั้นเมื่อโลกก้าวสู่ยุคที่เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI มีวิวัฒนาการผันเปลี่ยนและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การตามเทรนด์ให้ทันเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องรู้วิธีการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์อย่างถูกวิธีเพื่อให้เกิดผลสำเร็จมากที่สุด

เรืองโรจน์ เล่าขยายความต่อว่า ที่ผ่านมาเราเห็นเทคโนโลยีเข้ามาดิสรัปหลายอุตสาหกรรมและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง เช่น สื่อ การท่องเที่ยว รวมถึงการเงิน ที่คนหันมาใช้โมบายแบงกิ้งกันอย่างมหาศาล และในช่วงนี้ โลกจะเจอกับการเปลี่ยนแปลงแบบ “หักศอก” อีก 2 ครั้ง โดยครั้งที่หนึ่งจะเกิดในปี 2024-2025 และครั้งที่สองคือหลังปี 2030 ที่จะเริ่มเห็นการใช้งานจริงของเทคโนโลยีที่เพิ่มขีดความสามารถอย่างทวีคูณ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดในหลายๆ เทคโนโลยีพร้อมๆ กัน จนทำให้ไม่มีใครเดาถูกว่า “โลกจะเป็นอย่างไรต่อไป” ขนาดที่ว่าเจ้าพ่อเอไอของโลก อย่าง Kai-Fu Lee (ไค-ฟู ลี) ผู้เขียนหนังสือเล่มดังอย่าง AI Superpowers ยังไม่กล้าพยากรณ์แบบฟันธงว่าทิศทางต่อไปจะเป็นอย่างไร

ส่วนในมุมของธุรกิจนั้นจะเกิดอะไรขึ้นนั้น เรืองโรจน์ ฉายภาพว่า ที่ผ่านมา KBTG มีการนำ AI มาใช้เป็นจำนวนมาก โดยในยุคแรกเป็นการใช้ Predictive AI หรือใช้ AI ทำนายแนวโน้มในอนาคตได้แม่นยำขึ้นจากข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน แต่ในตอนนี้การใช้ AI เปลี่ยนเป็นแบบ Generative AI คือใช้ AI เพื่อเพิ่ม Productivity สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ และใน KBTG ก็มีการใช้ AI กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ทำให้เกิดประสิทธิภาพที่บางเคสเพิ่มขึ้นสูงถึง 700% แต่ก็ไม่ใช่กับทุกเคส สะท้อนให้เห็นว่า “หากธุรกิจนำไปใช้เป็น ใช้ให้ถูก Use case ประสิทธิภาพก็จะเพิ่มขึ้น” ขนาดที่ว่า แซม อัลต์แมน CEO ของ Open AI ยังพูดว่า ต่อไปเราจะมียูนิคอร์นที่มีพนักงานแค่ 1 คนเท่านั้น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีการนำ AI มาใช้ให้ถูกทิศถูกทางถูกที่และถูกคน

แล้ว AI จะมาปฏิวัติโลก “การลงทุน” อย่างไรบ้าง?

จากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ AI ทำให้หลายธุรกิจมีโอกาสเติบโตและได้ประโยชน์จากสิ่งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงมีความผันผวน ทำให้การลงทุนมีความเสี่ยง ซึ่งเราสามารถลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงได้ผ่านกองทุนรวม แทนที่จะลงทุนในหุ้นบริษัทต่างๆ โดยตรง โดย K WEALTH จากธนาคารกสิกรไทยมองว่ามี 2 กองทุนรวมที่น่าสนใจและมีโอกาสได้ประโยชน์จากเทรนด์เทคโนโลยี ได้แก่ กองทุน K-GHEALTH มีนโยบายการลงทุน เน้นหุ้นเติบโตสูง เช่น หุ้นในกลุ่ม Biotech และ MedTech และเน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐานราคาผันแปรตามเศรษฐกิจโลกน้อย และ กองทุน K-GTECH ที่เน้นลงทุนหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก เน้นหุ้นเติบโตสูง และเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น เทคโนโลยี 5G, รถยนต์ EV, เทคโนโลยี AI เป็นต้น

*ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


Author

Content Partnership

Content Partnership