ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังได้เห็นชอบ ให้เลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ (ไอเอฟอาร์เอส 9) ต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ออกไปอีก 2 ปี จากเดิมจะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 68 ออกไปเป็นปี 70 เพื่อให้ธนาคารรัฐได้มีเวลาปรับตัวกับการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่เพิ่มเติม เนื่องจากมาตรฐานบัญชีใหม่มีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติหลายประเด็นมาก โดยเฉพาะการประเมินการด้อยค่าทางเครดิตของสินทรัพย์ จนอาจทำให้กระทบต่อการดำเนินงาน และทำให้ธนาคารรัฐที่มีลูกค้าผิดนัดชำระหนี้จำนวนมาก ต้องมีภาระการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสถาบันการเงินรัฐมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายรัฐบาล และสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยการให้สินเชื่อแก่ประชาชนและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิด ดังนั้น จึงเห็นว่าควรให้เลื่อนมาตรฐานบัญชีใหม่ไปก่อน เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อสถาบันการเงิน เพราะธนาคารส่วนใหญ่มีภารกิจเฉพาะทาง ในการสนับสนุนภาครัฐ ไม่ได้ทำธุรกิจการเงินระหว่างประเทศมากนัก
สำหรับมาตรฐานบัญชีใหม่ จะช่วยยกระดับการทำบัญชีของธนาคารรัฐให้เป็นสากลยิ่งขึ้น แต่อาจทำให้ธนาคารรัฐบางแห่ง มีผลกระทบเกี่ยวกับการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเลื่อนบังคับใช้ได้กำหนดให้ทุกธนาคารต้องมีการซักซ้อมทำบัญชีมาตรฐานใหม่ควบคู่กับมาตรฐานบัญชีปัจจุบันไปด้วย เพื่อให้แต่ละแบงก์สามารถปรับตัว และรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากมาตรฐานบัญชีใหม่ ก่อนที่จะเริ่มใช้จริงในปี 70.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่