กรุงศรี หนุน SME เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ ESG โซลาร์รูฟท็อปโตแรง หนุนปล่อย สินเชื่อเพิ่ม 4.5 พันล้าน
Date Time: 9 พ.ค. 2567 09:05 น.
“Summary“
- กรุงศรี สานต่อโครงการ Krungsri ESG Awards เป็นปีที่สอง หนุน SME เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน ติวเข้มผ่านหลักสูตรอบรมพิเศษ Krungsri ESG Academy 2024 ตลอด 4 เดือน ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปโตแรง หนุนปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 4,500 ล้านบาท
นางสาวดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงศรี ตระหนักถึงความเร่งด่วนและความจำเป็นในการสนับสนุนลูกค้าธุรกิจให้ปรับตัวและเปลี่ยนแปลงสู่เส้นทางของความยั่งยืน โดยเราพร้อมยืนหยัดเคียงข้างผู้ประกอบการ SME ผ่านการสนับสนุนทางการเงินและกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจด้าน ESG ด้วยเป้าหมายสำคัญสามประการ คือ
1. ส่งเสริมความรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงความสำคัญของ ESG และเห็นแนวทางในการสร้างความยั่งยืนซึ่งเป็นเรื่องง่ายและใกล้ตัวกว่าที่คิด
2. ให้การช่วยเหลือธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อพัฒนาแผนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืนที่นำไปใช้ได้จริง
3. ขยายโอกาสให้ธุรกิจเข้าถึงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างพันธมิตรในการต่อยอดด้าน ESG ได้ครบทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม การลงมือปฏิบัติเพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านให้เกิดขึ้นจริง นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการ SME ผลสำรวจของ Krungsri SME Banking Survey 2024 พบว่า 74% ของธุรกิจ SME ขาดการรับรู้เกี่ยวกับ ESG ในขณะที่มีเพียง 14% เท่านั้น ที่นำ ESG ไปปฏิบัติแล้วบางส่วน
กรุงศรีจึงได้สานต่อโครงการ Krungsri ESG Awards เป็นปีที่สอง เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการ เพื่อยกย่องและส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ที่ดำเนินธุรกิจตามแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ เห็นว่า ESG สามารถทำได้จริงและจำเป็นต้องทำ
โดยในปีนี้ มีกิจการที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการกว่า 60 องค์กร ที่มียอดขายตั้งแต่ระดับ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ประกอบไปด้วย ลูกค้าธุรกิจ SME ลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น สมาชิกของสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม (SE Thailand) รวมถึงผู้ประกอบการที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของกรุงศรี ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดจะได้เข้า เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจตามกรอบ ESG อย่างครบทุกมิติจากผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ ตลอดระยะเวลาสี่เดือน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่วิธีการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน การจัดการด้านสภาพภูมิอากาศ การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤติ รวมถึงแนวทางการดำเนินการธุรกิจหรือกิจกรรมสีเขียวตามนิยาม Thailand Taxonomy และได้ลงมือพัฒนาแผนในการปรับเปลี่ยนธุรกิจตามกรอบ ESG (Transition Plan) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากพันธมิตรและกรุงศรี ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสการเข้าถึงเครือข่าย ESG ที่น่าเชื่อถือจากเครือข่ายพันธมิตรของกรุงศรี เพื่อสร้างโอกาสธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ในปี 2566 ที่ผ่านมา ธนาคารให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainable Finance) สำหรับธุรกิจ SME จำนวน 6,147 ล้านบาท จากวงเงินเป้าหมาย 4,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอดการปล่อยสินเชื่อ ESG ที่เติบโตกว่าเป้าหมายเป็นผลมาจากความนิยมของสินเชื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศให้กับธุรกิจขนาดเล็ก ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ แม้ปริมาณวงเงินปล่อยสินเชื่อต่อรายจะไม่เยอะ แต่ช่วยสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น
สำหรับปีนี้ตั้งเป้าหมายสนับสนุนสินเชื่อเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainable Finance) ให้กับกลุ่มลูกค้า SME วงเงิน 4,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% โดยธุรกิจ Solar Rooftop เป็นกลุ่มที่เติบโตแรงและมีความต้องการสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ช่วยประหยัดต้นทุนพลังงาน และเห็นผลตอบแทนที่ชัดเจน โดยปกติธุรกิจดังกล่าวจะใช้เวลาคืนทุนที่ประมาณ 5-7 ปี แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้คืนทุนเร็วขึ้นที่ 3-5 ปี
รวมถึงธุรกิจ EV Station ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
Author
