ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธนาคารกสิกรไทย ได้ออกรายงานวิเคราะห์การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่าทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีบรรยากาศดีขึ้น ช่วยบรรเทาภาระรายจ่ายในการซื้อที่อยู่อาศัย ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางสามารถเข้าถึงสินเชื่อ และยังเป็นเครื่องมือทำตลาดกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนที่อยู่อาศัยคงค้างเหลือขายสะสมเพิ่มขึ้นมาก แต่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยยังต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสำคัญ ทั้งความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ความพร้อมทางการเงินของผู้ซื้อซึ่งจะเป็นภาระผูกพันระยะยาว ท่ามกลางสถานการณ์รายได้และกำลังซื้อในช่วงข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงรูปแบบและทำเลที่ตั้ง ความคุ้มค่า ขณะที่ยังต้องขึ้นกับเงื่อนไขการอนุมัติสินเชื่อสำหรับผู้ซื้อแต่ละรายด้วย
“มองว่าการขยายเพดานให้ครอบคลุมระดับราคา 3.01-7.00 ล้านบาท เน้นกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อที่มีรายได้ระดับกลางถึงบน จะช่วยกระตุ้นกลุ่มผู้ซื้อที่มีความพร้อมทางการเงินตัดสินใจได้เร็วขึ้น และผลจากมาตรการ น่าจะทำให้ช่วง 9 เดือนที่เหลือของปี 67 การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมี 2.79 แสนหน่วย หดตัว 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และทำให้ยอดโอนทั้งปี 67 อาจหดตัวราว 1.6% ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว 3.6% หากไม่มีมาตรการ”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่