นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนและเป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะหน้า และเพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือข้าราชการกลุ่มเปราะบาง ที่มีภาระหนี้สูง เงินเดือนถูกหักเงินไปใช้หนี้จนเกือบหมด มีเหลือใช้ในแต่ละเดือนไม่ถึง 30% จึงได้จัดทำโครงการ “สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” เพิ่มเติมจากมาตรการความช่วยเหลือข้าราชการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีดอกเบี้ยพิเศษคงที่ตลอดอายุสัญญา ขยายเวลาชำระหนี้สูงสุดถึงอายุ 80 ปีตามความจำเป็น โดยจะช่วยให้ข้าราชการรวมหนี้รายย่อยทุกประเภท ทั้งสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ จากทั้งธนาคารกรุงไทยและสถาบันการเงินอื่นๆ มาจ่ายเป็นก้อนเดียว ทำได้ 2 รูปแบบคือ 1.สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งสินเชื่อบ้าน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) และสินเชื่อบ้านแลกเงิน (พร้อมขอกู้เพิ่ม) ดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3.50% ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้นดอกเบี้ยคงที่ 4.75% ต่อปีตลอดอายุสัญญา 2.สินเชื่อแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
ด้านนางสาวนันทพร ตั้งเจริญศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทีทีบีได้ออกผลิตภัณฑ์การเงิน “สวัสดิการพิชิตหนี้” เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้เรื้อรังของพนักงานเงินเดือน โดยตั้งเป้าช่วยพนักงานไทยปลดหนี้กว่า 200,000 ราย ภายใน 3 ปี และให้สิทธิพิเศษสำหรับองค์กรที่ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ให้สินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ttb welfare loan) ช่วยรวบหนี้ที่พนักงานมีอยู่มาจ่ายเป็นก้อนเดียว ด้วยดอกเบี้ยเริ่มต้น 7.99% ต่อปี ในวงเงินกู้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน เป็นต้น.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่