ทีทีบี เผย ยอดผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น ปี 67 เจาะสินเชื่อบ้าน-รถ ระดับบน ปล่อยนาโนไฟแนนซ์ เม.ย.นี้

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ทีทีบี เผย ยอดผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น ปี 67 เจาะสินเชื่อบ้าน-รถ ระดับบน ปล่อยนาโนไฟแนนซ์ เม.ย.นี้

Date Time: 13 มี.ค. 2567 16:09 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • ทีทีบีเดินหน้ากลยุทธ์ LEAD the CHANGE for Financial Well-being of Retail Customers ตั้งเป้าปี 67 สินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อยธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เติบโต 1-2% เติบโตเพียงเล็กน้อยจากปีก่อน ขณะที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยตั้งเป้า NPL ไม่เกิน 2.2% ด้านรถยนต์อยู่ที่ 1% เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนมีกำลังซื้อ และพอร์ตรถใหม่ ล่าสุดเตรียมลอนซ์นาโนไฟแนนซ์ เม.ย. นี้ เป็นดิจิทัล 100%

Latest


ฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) กล่าวว่า ทีทีบีมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อส่งมอบชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงชีวิต โดยเฉพาะ 4 กลุ่มลูกค้าหลักที่ธนาคารเชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด Ecosystem Play ได้แก่ กลุ่มคนมีรถ คนมีบ้าน พนักงานเงินเดือน และลูกค้า Wealth โดยมีแอป ttb touch เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเชื่อมต่อโซลูชันและสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากพันธมิตรชั้นนำของธนาคาร เพื่อส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินในระดับบุคคล หรือ Segment-of-One ให้กับลูกค้า ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อ ลงทุน และประกัน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับในปี 67 ทีทีบีเดินหน้ากลยุทธ์ LEAD the CHANGE for Financial Well-being of Retail Customers โดยในส่วนของเงินฝากคาดการณ์ว่าจะทรงตัวเหมือนปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 980,000 ล้านบาท ด้านบัตรเดบิต All Free 114,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ขณะที่เงินฝากประจำทรงตัวที่ 350,000 ล้านบาท และ ME Saving อยู่ที่ 33,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 50% 

สินเชื่อบ้าน รถ คาดเติบโต 1-2%

ทั้งนี้สินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อย ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เติบโต 1-2% ขณะที่สินเชื่อบ้านแลกเงินเติบโตจากเดิม 10% โดยจะเน้นไปที่กลุ่มบ้านระดับบนราคาตั้งแต่ 5-10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเน้นการปล่อยสินเชื่อบ้านใหม่ในกลุ่มบ้านเดี่ยวในเมือง และคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า พร้อมเพิ่มสัดส่วนรีไฟแนนซ์บ้านในกลุ่มพนักงานเงินเดือน และเน้นโครงการรวบหนี้ เพื่อช่วยผ่อนภาระดอกเบี้ยให้กับลูกค้า

ขณะที่สินเชื่อรถแลกเงิน คาดเติบโต 15-20% ซึ่งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปี 67 จะเน้นสินเชื่อรถใหม่ที่เติบโตตามอุตสาหกรรม เพิ่มสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้า ไม่แข่งราคาแต่เน้นเรื่องการบริหาร โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า เป็น 30-35% จากปีที่ผ่านมาเติบโตที่ 13-15%

ด้านบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 67 ตั้งเป้าให้มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เพิ่มขึ้น 20-25% จากยอดคงค้างปีก่อนที่ 37,000 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าใหม่ ส่วนทางด้านสินเชื่อส่วนบุคคลยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10-15% อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้างเติบโต 10-15% จากยอด 39,000 ล้านบาท

คาด NPL บ้านทรงตัว อยู่ที่ประมาณ 2.2% รถยนต์ 1%

นอกจากนี้ ธนาคารมีความห่วงใยในปัญหาหนี้สินของคนไทย ด้วยปัญหาเศรษฐกิจเรื้อรัง ที่ทำให้ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้เป็นหนี้ค้างชำระระหว่าง 1-3 เดือนสูงขึ้น และมีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น ดังนั้นธนาคารจึงมีเป้าหมายที่จะบริหารจัดการความเสี่ยงของกลุ่มสินเชื่อรายย่อยอย่างต่อเนื่อง 

ยังคงควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 

สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 2.2% จากที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.9% ส่วนตลาดวิ่งไปอยู่ที่ 4% เพราะมีการปรับโครงสร้างไปพร้อมๆ กับเน้นลูกค้ากลุ่มบน รีไฟแนนซ์ มากขึ้น จึงค่อนข้างมีความเสี่ยงต่ำ ด้าน NPL รถยนต์ควบคุมให้อยู่ที่ 1% เพราะจะเน้นรถใหม่ รวมถึงจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าโดยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 7,000 คัน ส่วนบัตรเครดิตและสินเชื่อรถยนต์อยู่ไม่ระดับที่ค่อนข้างต่ำมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าของธนาคาร 

เตรียมบุกนาโนไฟแนนซ์ เม.ย. 67 นี้ เป็น Digital 100%

ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมของกลุ่มลูกค้ารายย่อยในปี 67 ในส่วนของรีเทลมาจากประกันเป็นส่วนใหญ่ และบัตรเครดิต เดบิต ที่มีการใช้จ่ายมากขึ้น บวกกับธุรกรรมผ่านตู้ ATM จึงคาดว่าจะสามารถเติบโต ได้ 5-6% โดยจะมีการเดินหน้าบุกผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น  

นอกจากนี้ ในส่วนของ AUM มูลค่าสินทรัพย์เพื่อการลงทุนตั้งเป้าเติบโต 15-20% โดยปัจจุบันอยู่ที่ 190,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นเจาะลูกค้า 30 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ แอป ttb touch ตั้งเป้าแอคทีฟยูสเซอร์ไว้ที่ 80% ส่วนลูกค้าใหม่ตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านราย พร้อมทั้งมีแผนที่จะเริ่มธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ ที่จะทำผ่านดิจิทัล 100% โดยจะเริ่มทดสอบในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งวางเป้าไว้ไม่กี่ร้อยล้าน เพื่อเป็นการทดลอง แต่หากผลตอบรับดี ก็อาจจะมีการขยายต่อไป

ส่วนที่สุดของ ttb ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง?

  • ยอดสินเชื่อบ้านใหม่ที่สูงที่สุด ยอดสินเชื่อ 50 ล้านบาท
  • สินเชื่อรถยนต์ที่สูงที่สุด คือ Ferrari SF 90 ยอดสินเชื่อ 40 ล้านบาท
  • ลูกค้ารูดบัตรมากที่สุด 8,803 ครั้ง รวมเป็นเงินกี่บาท 6.7 ล้านบาท
  • รายการรูดบัตรที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือ จ่ายเบี้ยประกันชีวิต 20 ล้านบาท
  • ลูกค้าที่มีคะแนนสะสมเยอะที่สุด 28 ล้านคะแนน บัตร ttb reserve insinite
  • ตู้ ATM ของ ttb ที่คนกดบ่อยมากที่สุดอยู่ที่ 7-11 วอล์กกิ้งสตรีท ซอย 15 พัทยา ทั้งหมด 38,789 ครั้ง
  • บัญชีเงินฝากที่เก่าที่สุดมีอายุเท่าไร อายุ 82 ปี ตอนนี้มีเงินในบัญชี 2,161.9 บาท
  • ลูกค้าที่ใช้ QR มากสุดใช้ไป 9.6 พันครั้ง ครั้งเป็นเงินกี่บาท เป็นเงิน 1.2 ล้านบาท ทั้งโอนเงินและจ่ายบิล

ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการเงิน และธนาคาร กับ Thairath Money ได้ที่ 
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์