ยกเครื่อง Core Banking ครั้งใหญ่ ไทยพาณิชย์อัดปีละ 8 พันล้านยิงยาว 4 ปี

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ยกเครื่อง Core Banking ครั้งใหญ่ ไทยพาณิชย์อัดปีละ 8 พันล้านยิงยาว 4 ปี

Date Time: 8 พ.ย. 2566 07:25 น.

Summary

  • ธนาคารไทยพาณิชย์ยกเครื่อง Core Banking ครั้งใหญ่ คิกออฟปลายปี อัดฉีดงบไอทีเพิ่มสู่ปีละ 8,000 ล้านบาท ยิงยาว 4 ปีต่อเนื่อง เพื่อให้เคลื่อนตัวได้เร็วกว่าเดิมปรับ เปลี่ยนตามสถานการณ์และความต้องการลูกค้า

Latest

ชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ส่ง Lightnet จับมือ WeLab ฟินเทคฮ่องกง ลงสนามชิงใบอนุญาตฯ Virtual Bank

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังดำเนินกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ในระยะแรก ที่เริ่มดำเนินมาตลอด 1 ปี เพื่อปรับตัวเป็นดิจิทัลแบงก์รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และพฤติกรรมลูกค้าที่จะย้ายไปสู่ระบบดิจิทัลในท้ายที่สุดแล้ว

ยังมีการตั้งเป้าหมายภายในปี 2568 จะต้องเพิ่มสัดส่วนรายได้ดิจิทัลให้เป็น 25% หรือราว 40,000 ล้านบาท จากปัจจุบันรายได้ดิจิทัลของธนาคารอยู่ในระดับ 7% เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีอยู่ 3% โดยธนาคารมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลทุกแพลตฟอร์มรวมกันกว่า 25 ล้านราย มียอดทำธุรกรรมรวมแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านรายการ หรือกว่า 89% ของธุรกรรมทั้งหมดของธนาคาร “ในระยะนี้ธนาคารยังได้เริ่มปรับใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเรียนรู้และทำความรู้จักลูกค้าในช่องทางบริการต่างๆ ด้วยการสร้าง Chat bot เริ่มที่การบริการคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นจะขยายสู่ SCB Connect ในอนาคตยังมีแผนในการใช้ AI ให้คำแนะนำทางด้านการลงทุนให้กับลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) อีกด้วย”

นายอรพงศ์ เทียนเงิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Technology ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีแผนยกเครื่องระบบปฏิบัติการหลักของธนาคาร (Core Banking) ซึ่งหลายระบบมีอายุมากกว่า 50 ปี ไม่มีเทคโนโลยีใหม่รองรับแล้ว โดยจะมีการอัดฉีดงบไอทีปีหน้าเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท จากงบลงทุนไอทีปีนี้ที่ 5,000 ล้านบาท และคงระดับการลงทุนต่อปีในระดับดังกล่าวต่อเนื่องอีก 4 ปี เพื่อการยกเครื่องครั้งใหญ่

“การลงทุนครั้งนี้เป็นการมุ่งสู่การเป็นดิจิทัลแบงกิ้งเต็มรูปแบบ พร้อมกับนำ AI มาใช้ การเปลี่ยน Core Banking จะทำให้ธนาคารสามารถเคลื่อนตัวได้เร็วกว่าเดิม ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งกระบวนการเปลี่ยน Core Banking จะใช้เวลาประมาณ 4 ปี เริ่มจากปลายปี 2566 เป็นต้นไป”

การวางโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ ยังเป็นการสอดรับกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลขการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผู้ใช้โมบาย แบงกิ้ง (Mobile Banking) ของธนาคาร จำนวน 15 ล้านคน และหากนับรวมช่องทางดิจิทัลอื่นๆ (SCB Connect, Corporate Portal สำหรับลูกค้านิติบุคคล, Business Anywhere) จะมีทั้งสิ้น 17 ล้านคน โดยข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทยระบุ ณ สิ้น ก.ค.2566 มีจำนวนผู้ใช้โมบาย แบงกิ้งอยู่ที่ 103 ล้านบัญชี มูลค่าธุรกรรม 5.7 ล้านล้านบาท

“ภารกิจสำคัญคือการยกระดับบริการสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลครบวงจร โดยมีเป้าหมายเพิ่มรายได้จากช่องทางดิจิทัลจากปัจจุบัน 7% เป็น 25% ให้ได้ภายในปี 2568 ซึ่งรายได้ทางดิจิทัล 25% เมื่อเทียบกับรายได้ของธนาคาร ณ ปัจจุบัน คิดเป็นจำนวนกว่า 36,400 ล้านบาท ถือเป็นความท้าทายยิ่งที่จะต้องเพิ่มสัดส่วนรายได้นี้ภายใน 3 ปีข้างหน้า แต่ทิศทางที่ธนาคารจะมุ่งไปนั้นไม่ใช่เรื่องรายได้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องรวมถึงการเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและก้าวเข้าสู่ดิจิทัลพร้อมกับธนาคารด้วย”

ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งผลดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2566 ธนาคารมีรายได้ 110,000 ล้านบาท เติบโตจาก 99,000 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 36,600 ล้านบาท เติบโต 21% โดยได้รับผลดีจากรายได้ดอกเบี้ยเติบโตสูง รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต จากค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อ ธุรกรรมทางการเงิน และธุรกิจบริหาร ความ มั่งคั่ง (Wealth Management) นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) ได้ในระดับสองหลัก และควบคุมค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income) ใน 9 เดือนแรก ไว้ได้ที่ 37.4% ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ