รีไฟแนนซ์ เรื่องจำเป็นของคน "ผ่อนบ้าน"  ทางออกลดดอกเบี้ย

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รีไฟแนนซ์ เรื่องจำเป็นของคน "ผ่อนบ้าน" ทางออกลดดอกเบี้ย

Date Time: 3 พ.ย. 2566 14:00 น.

Video

“ไทยรัฐ โลจิสติคส์” ถอดคราบ “ยักษ์เขียว” มุ่งสู่ขนส่งครบวงจร | Thairath Money Talk

Summary

  • มหากาพย์ผ่อนบ้าน จ่ายแต่ดอก เงินต้นไม่ลด? ปัญหาใหญ่ของ “คนมีบ้าน” ที่ต้องเร่งหาทางออกก่อนบานปลาย “รีไฟแนนซ์” ทางเลือกสู่ทางรอดขจัดปัญหา “ดอกเบี้ยอ่วม”

Latest


“ดอกเบี้ยบ้าน” เมื่อพูดถึงคำนี้หลายคนก็มักจะปวดใจไปตามๆ กัน โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ระหว่างผ่อนบ้านหรือกำลังมีแผนจะซื้อบ้าน เพราะยิ่งดอกเบี้ยสูงขึ้นจะทำให้ค่าผ่อนบ้านสูงเป็นเงาตามตัว

เห็นได้จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กหญิงรายหนึ่งได้โพสต์ภาพสลิปจากแอปฯ ธนาคารพร้อมแคปชั่น โดยในภาพนั้นจะเป็นข้อมูลการจ่ายเงินผ่อนบ้านให้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งพบว่ายอดชำระของเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 10,900 บาท แต่เงินจำนวนดังกล่าวหักเงินต้นออกไปเพียง 5.50 บาท ที่เหลือเป็นดอกเบี้ย 10,894.50 บาท โดยตอนนี้ยังมียอดคงเหลืออยู่ที่ 2,140,425.87 บาท พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่คอนเทนต์ แต่เป็นเรื่องจริง และมีการจ่ายตรงวันด้วย เพราะระบบจะตัดอัตโนมัติ รวมทั้งยังได้มีการโทรไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารดังกล่าวก็พบว่า แม้จะจ่ายก่อนกำหนดก็ไปลดดอกหมด พร้อมยืนยันว่าปีหน้าครบสัญญาจะรีไฟแนนซ์แน่นอน 

และเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็ได้มีผู้มาร่วมแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากว่า บ้างก็ว่า ต้นโหดมาก, กี่ชาติจะหมด, ไม่อยากได้บ้านเพราะแบบนี้, กว่าจะได้โฉนดของจริงมาครองต้องเสียไปเท่าไหร่ บ้างก็เข้ามาแชร์ประสบการณ์การผ่อนบ้านของตนที่ตัดเงินต้นไปเพียงน้อยนิดเช่นกัน 

ดอกเบี้ยบ้าน..อย่ามองข้ามถ้าไม่อยากบานปลาย!

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจ "Guru Living" ซึ่งเป็นเพจเกี่ยวกับการแนะนำการเงิน  ที่เล่าเรื่องเงินให้เป็นเรื่องง่าย ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ พร้อมแนะว่า
จากเคสนี้คาดว่าคงเป็นโปรผ่อนต่ำในช่วง 1-2 ปีแรกของธนาคาร จึงทำให้ค่างวดที่ส่งไป ไปตัดเป็นดอกเบี้ยเกือบทั้งหมด 

ดังนั้น คำแนะนำยังคงเหมือนเดิม คือ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มผ่อนบ้านช่วงแรกๆ ถ้ามีกำลัง แนะนำให้พยายามโปะชำระให้ได้เยอะที่สุด เพื่อให้ยอดหนี้ลดลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อผ่อนชำระครบ 3 ปี ก็อย่าลืมไปทำเรื่องรีไฟแนนซ์ หรือขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารที่ผ่อนอยู่ เพื่อที่จะช่วยให้เราประหยัดดอกเบี้ยที่จ่ายให้น้อยลง

ส่วนคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้าน แนะนำมากๆ ว่าช่วงนี้ควรต้องวางแผนการโปะให้ดี ตั้งแต่ก่อนจะซื้อ ไม่อย่างนั้นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นแบบนี้จ่ายดอกเบี้ยเยอะแน่ๆ

รีไฟแนนซ์บ้าน ทางเลือกสู่ทางรอด ลดภาระ ปิดหนี้

ดังนั้น “การรีไฟแนนซ์บ้าน” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัด โดยการรีไฟแนนซ์ ก็คือ การกู้สินเชื่อก้อนใหม่มาปิดหนี้ก้อนเดิม ซึ่งจะช่วยคลายปัญหาหนักให้เบาลง แล้วผู้กู้ก็จะได้มาผ่อนสินเชื่อก้อนใหม่ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และช่วยยืดระยะเวลาการผ่อน ไม่ให้สภาวะทางการเงินตึงเครียดจนเกินไปอีกด้วย

8 ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน มีอะไรบ้าง?

สำหรับขั้นตอน การรีไฟแนนซ์บ้าน นั้นไม่ซับซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคล้ายคลึงกับการยื่นกู้ซื้อบ้าน แต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อยและมีขั้นตอนดังนี้

  1. พิจารณาระหว่างธนาคารเดิมกับธนาคารใหม่

    หากใครที่กำลังลังเลว่าอยากให้ลดดอกเบี้ยลง แต่ไม่อยากเปลี่ยนธนาคาร คุณสามารถทำได้โดยติดต่อธนาคารเพื่อลดดอกเบี้ยให้ (Retention) ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเปรียบเทียบคือ ค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์ และดอกเบี้ยที่ธนาคารใหม่เสนอให้

    โดยข้อดีในการลดดอกเบี้ย คือ ไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการ ลดค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ แต่ข้อเสีย คือ ส่วนใหญ่แล้วดอกเบี้ยที่ได้ลดจะน้อยกว่าธนาคารใหม่ที่เสนอให้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ขอสินเชื่อว่าต้องการแบบไหน
  2. ตรวจสอบสัญญาการกู้

    ตรวจสอบสัญญาว่า กำหนดการที่สามารถให้รีไฟแนนซ์ได้เมื่อไร โดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะอนุญาตให้รีไฟแนนซ์ได้หลังผ่อนชำระครบ 3 ปี แต่หากต้องการรีไฟแนนซ์ก่อน ทางผู้กู้จะต้องชำระค่าปรับให้กับทางธนาคาร

  3. ตรวจสอบข้อมูลยอดหนี้คงเหลือ

    สามารถทำได้ผ่านการติดต่อกับสถาบันทางเงินเดิมเพื่อสรุปยอดหนี้สินในการผ่อนชำระ โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเลือกธนาคารใหม่ ผ่านการนำยอดหนี้ที่คงเหลือไปคำนวณกับข้อเสนอที่ธนาคารมอบให้

  4. มองหาธนาคารที่เหมาะสม

    โดยพิจารณาจากข้อเสนอ ทั้งในเรื่องของดอกเบี้ยและระยะเวลาในการชำระหนี้ ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีโปรโมชั่นให้เลือกมากมาย 

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า การรีไฟแนนซ์ จะสามารถลดดอกเบี้ยได้เสมอไป ดังนั้นก่อนจะรีไฟแนนซ์ แนะนำให้ผู้ขอสินเชื่อศึกษารายละเอียดของสินเชื่ออย่างละเอียดรอบคอบ สิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณา คือ อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อของสินเชื่อรีไฟแนนซ์จะต้องต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อปัจจุบันหรือไม่นั่นเอง

อย่างไรก็ตามมีอีกวิธีที่จะผ่อนบ้านให้หมดเร็ว นั่นคือ การโปะบ้าน 2 แบบ นั่นคือ ชำระเกินทุกงวด vs โปะเพิ่มปีละครั้ง ซึ่งหากพูดกันง่ายๆ ก็คือการใช้หนี้ให้มากกว่าที่กำหนดไว้ หรือมากกว่าจำนวนเงินชำระต่องวดที่ระบุไว้ในสินเชื่อ เพื่อให้มีจำนวนเงินไปหักชำระเงินต้นมากขึ้น หรือการไปหักยอดหนี้ออกโดยตรงนั้นเอง โดยพบว่าการโปะบ้านนั้นเป็นวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น และเสียดอกเบี้ยทั้งหมดลดลงได้จริง

อย่างไรก็ตามวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วนั้นสามารถทำได้ทั้งการกระจายเงินเพื่อชำระเงินเกินในแต่ละงวดด้วยจำนวนเงินน้อยๆ อาจจะเป็นการชำระเกินทุกงวด หรือจะเป็นการชำระเกินด้วยจำนวนเงินมากๆ เพียงก้อนเดียว ด้วยการโปะบ้านเพิ่มปีละครั้งก็สามารถทำได้เช่นกัน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ