หุ้นร่วง 22 จุด! เงินบาทอ่อนทะลุ 37 นายกฯ-ธปท.เฝ้าระวังค่าบาท ปัจจัยนอกกดดัน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง แต่เรื่องจะไปแทรกแซงคงไม่มี ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด และการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าก็ไม่ได้มีผลเสียทั้งหมด เพราะการส่งออกมีมากกว่า 50% ของจีดีพี ส่วนการท่องเที่ยวคือ 20% ของจีดีพีก็ได้รับอานิสงส์ในเชิงบวก แต่ต้องดูให้เหมาะสม ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลติดตามอยู่ ส่วนที่จะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันที่ไทยนำเข้าเป็นเรื่องธรรมดา ต้องหาและใช้พลังงานทดแทน รวมถึงใช้แผนระยะยาวแก้ไขปัญหาเรื่องแหล่งพลังงาน ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง กล่าวว่า จากที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแตะ 37 บาทต่อดอลลาร์และดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงนั้น กระทรวงการคลังได้ติดตามสถานการณ์ ขณะที่ความมั่นคงทางการคลังยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และอยู่ในวิสัยที่บริหารจัดการได้

ด้านนายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาดการเงิน ธปท. กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่ผันผวนมากขึ้นและอ่อนค่าลงแตะ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับอ่อนค่าลง 6.75% จากต้นปี และเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 10 เดือน แต่ยังสอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยการอ่อนค่าในช่วงหลังได้รับผลจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากความเป็นไปได้ ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยในระดับสูงไว้นานกว่าที่คาด ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงกดดันเพิ่มจากราคาทองคำที่ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นแตะสูงสุดในรอบปี ซึ่งตลาดมองว่าอาจกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย ประกอบ กับนักลงทุนยังรอความชัดเจนของนโยบายการคลังและการระดมทุนของภาครัฐ “ธปท.ได้ติดตามค่าเงินบาทใกล้ชิด และอาจพิจารณาเข้าดูแลหาก ผันผวนมากผิดปกติ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการปรับตัวของภาคเศรษฐกิจ และช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ภาคเอกชนควรบริหารความเสี่ยงสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงิน”

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันที่ 3 ต.ค.66 ที่ระดับ 37.07 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หลังเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯปรับตัวขึ้น จากถ้อยแถลงของเฟดที่ยังสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อ จนกว่าจะมั่นใจว่าคุมเงินเฟ้อได้สำเร็จ “หลังเงินบาทอ่อนค่าทะลุแนวต้านสำคัญ 36.85 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้อ่อนค่าต่อทดสอบโซน 37.15-37.25 บาท โดยคงมุมมองเดิมว่า จุดอ่อนค่าสุดของเงินบาทที่เป็นไปได้ หากอ้างอิงการประเมินมูลค่าของเงินบาทจากดัชนีเงินบาท (REER) จะอยู่ที่ 37.50 บาทต่อดอลลาร์” ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ต.ค.ปรับตัวลงแรงทั้งวันก่อนมาปิดที่ 1,447.30 จุด ลดลง 22.16 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 60,384.79 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 4,440.48 ล้านบาท.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่