ผมนั่งอ่าน “โฆษณา” หรือ “แจ้งความ” ชิ้นหนึ่งในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเมื่อวันก่อน (อังคารที่ 1 พฤศจิกายน) แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นและยินดีมากๆ...ขอถือโอกาสนำมาเขียนโฆษณาต่อให้ในวันนี้...เผื่อว่าจะมีท่านผู้อ่านท่านใดตกหล่นมิได้อ่านโฆษณาดังกล่าว
เขาพาดหัวตัวใหญ่พอสมควรว่า “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” ตามด้วยข้อความว่า “มีหนี้ต้องแก้ไขเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” และตามด้วยกำหนดวันพร้อมสถานที่ ได้แก่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 ณ อิมแพ็ค ฮอลล์ 5 เมืองทองธานี เวลา 10.00-18.00 น.
นอกจากรายละเอียดข้างต้นแล้ว ในโฆษณาประมาณ 3 ใน 4 ของหน้า 11 ไทยรัฐ ฉบับดังกล่าวยังมีข้อความดังต่อไปนี้รวมอยู่ด้วย
“ธนาคารภาครัฐ พร้อมผนึกกำลังช่วยลดปัญหาหนี้สินประชาชน/ ให้สินเชื่อต่อยอดธุรกิจเดินต่อ/เงินฝากดอกเบี้ยสูง/ให้คำปรึกษาพร้อมวางแผนแก้ปัญหาหนี้สินอย่างถูกต้อง/ช็อปปิ้งสินทรัพย์รอการขายจากธนาคาร NPA”
จากข้อความดังกล่าวแล้วก็มาถึงตารางเวลากิจกรรมหรือ “ไฮไลต์” ในงานนี้ซึ่งเขาระบุเป็นรายละเอียดไว้ตลอด 3 วัน ดังนี้ ได้แก่
4 พ.ย.65 เวลา 14.00 น. เสวนา “เทคนิคการบริหารเงินอย่างไรให้แก้หนี้ได้ และมีโอกาสเติมทุน” โดยวิทยากรจาก SME D Bank
5 พ.ย.65 เวลา 10.20 น. เสวนา “จัดการหนี้อย่างไรให้เงินงอกเงย” โดย ก.ล.ต. พบกูรูการเงินชื่อดัง “คุณหมอนัท” ธนัฐ ศิริวราง กูร, คุณน้ำ ไฟแนนซ์ (Nam Finance) ธนธร กาญจนิศากร
เวลา 13.00 น. บรรยายในหัวข้อ “เทคนิคการวางแผนทางการเงิน” โดยวิทยากรจาก กอช.
6 พ.ย.65 เวลา 11.00 น. เสวนา “จัดการหนี้อย่างมั่นใจด้วยประกันการส่งออก” โดยวิทยากรจาก EXIM BANK
เวลา 13.00 น. หัวข้อ “มันนี่ทอล์กกับโค้ชหนุ่มและคุณวิทย์” โดย ธนาคารออมสิน และเวลา 14.00 น. บรรยายหัวข้อ “เคล็ดลับปรับ โครงสร้างหนี้” โดยวิทยากรจาก บสย.
ครับ! ทั้งหมดนี้ก็คือสาระสำคัญของข้อความในประกาศโฆษณาของไทยรัฐฉบับดังกล่าว ซึ่งมี ธนาคารออมสิน เป็นเสาหลัก และผมเห็นว่าควรจะนำมาเผยแพร่ต่ออีกครั้ง
ดังที่ทราบกันดีแล้วว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่ถดถอยลงอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจของโลกเองได้ทำให้เกิดปัญหาด้านต่างๆ ด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างใหญ่หลวงในประเทศไทยเรา
ทั้งตัวเลขที่เป็นข้อเท็จจริง และตัวเลขจากการสำรวจต่างๆชี้ให้เห็นอย่างสอดคล้องกันว่าปัญหา “หนี้ครัวเรือนไทย” นับเป็นปัญหาใหญ่ ที่สุดปัญหาหนึ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยลงไปสำรวจและคาดการณ์ว่าหนี้ครัวเรือนไทยในปี 2565 หรือปีนี้ จะมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 89.3 ของ
จีดีพี คิดเป็นมูลค่าหนี้ครัวเรือนถึง 14.97 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 16 ปี
รัฐบาลไทยเองก็ตระหนักในปัญหานี้จึงได้ประกาศให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน” มอบหมายให้ธนาคารภาครัฐเป็นแกนนำในการแก้ปัญหา มีการดำเนินมาตรการโน่นนี่ไปแล้วหลายอย่าง
รวมทั้งการจัด “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ครัวเรือน” ที่โน่นที่นี่ขึ้นหลายๆแห่ง ดังที่เป็นข่าวอยู่เนืองๆว่าจัดที่โน่นที่นี่ ซึ่งผมเองก็เคยเขียนให้ในคอลัมน์วันเสาร์หลายๆครั้ง
มาครั้งนี้ก็น่าจะเป็นการ “จัดใหญ่” อีกเช่นเคย จึงมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในหลายๆช่องทาง รวมทั้งในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ผมขอร่วมเชิญชวน “ลูกหนี้” อีกครั้งหนึ่งว่าถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปลงทะเบียน เพื่อเข้าร่วมในมหกรรมครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน
ใครมีหนี้อยู่กับธนาคารไหน? อย่างไร? เท่าไร? จะผัดผ่อนอย่างไร? จะช่วยกันได้แค่ไหน...ก็ไปคุยกันเอาเอง
ย้ำอีกทีนะครับ 4-6 พฤศจิกายนนี้ ขอเชิญลูกหนี้ทั้งหลายไปร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงกัน ที่ฮอลล์ 5 อิมแพ็ค เมืองทองธานีนะครับ... และขอให้ประสบความสำเร็จในการยืดหนี้...ผ่อนหนี้ และเป็นหนี้ใหม่ด้วยหัวใจเป็นสุข...ทุกๆคนครับ.
“ซูม”