นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโครงการสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุนของธนาคารออมสินที่จะปล่อยเงินกู้ 2,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการดำรงชีวิตและลงทุนประกอบอาชีพของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เช่น ผู้ประกอบการรายย่อยพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอย เป็นต้น โดยเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปที่เข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ 100,000 ราย โดยให้สินเชื่อ ไม่เกินรายละ 20,000 บาท ซึ่งเงินที่ ครม.อนุมัติใช้ชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไม่เกิน 30% ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมด นับตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติเห็นชอบถึงวันที่ 31 ม.ค.66 หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการ
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผย ว่า ครม.อนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง ระยะที่ 2 วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท พร้อมอนุมัติกรอบวงเงินในการดำเนินการโครงการและค่าชดเชยดอกเบี้ย รวม 1,050.5 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ และประมง พื้นบ้านใช้เป็นเงินทุนในการปรับปรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำประมง
โดยคุณสมบัติผู้ประกอบการประมง ต้องมีสัญชาติไทย ครอบครองเรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทย มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ มีประสบการณ์มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี เป็นต้น ขนาดเรือประมงตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป กู้ได้รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท ยื่นกู้กับธนาคารออมสิน ส่วนเรือประมงขนาดน้อยกว่า 60 ตันกรอส กู้ได้รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ยื่นกู้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี โดยเก็บจากผู้กู้ 4% ต่อปี และรัฐบาลชดเชยให้ 3% ต่อปี มีระยะเวลาชำระเงินกู้ 7 ปี วงเงินสินเชื่อโครงการ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารออมสิน 2,000 ล้านบาท และ ธ.ก.ส. 3,000 ล้านบาท.