นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารตอบสนองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องและเพื่อเพิ่มกำลังซื้อและช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการรายเล็กในภาวะที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ธนาคารจึงปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำให้สูงขึ้น 0.10% - 0.50% สำหรับฝั่งเงินกู้เพื่อให้กระทบลูกค้ารายย่อยน้อยที่สุด จึงปรับดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ 0.25% มีผลตั้งแต่ 3 ต.ค.2565 ดังนี้ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 5.47% เป็น 5.72% ส่วนอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 5.84% เป็น 6.09%
ด้านนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต กล่าวว่า เพื่อสอดรับกับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นดังกล่าว ทีเอ็มบีธนชาตจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ย MRR สำหรับกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น 0.20% ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยกว่าการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในขณะที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MLR สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี 0.25% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MOR สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี 0.25% โดยการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565 เป็นต้นไป
ด้านนายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำและปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้เฉพาะลูกค้ารายใหญ่ โดยยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.65 เป็นต้นไป.