SCB ล้มดีลซื้อหุ้น Bitkub มูลค่า 17,850 ล้านบาท มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แจงเหตุ Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างกับ ก.ล.ต. ดับฝัน Bitkub ที่กำลังขึ้นเป็น “ยูนิคอร์น” ด้าน Bitkub ยันไม่กระทบ ยังรั้งผู้นำในตลาดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เดินหน้าพัฒนาธุรกิจต่อ หวังสร้างระบบนิเวศของตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีคุณภาพ ขณะที่ราคาเหรียญ KUB ร่วง สวนทางราคาหุ้น SCB พุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค.65 นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การยกเลิกธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด โดยระบุว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการ บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 ได้มีมติอนุมัติให้ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub) จากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาทนั้น ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทและ SCBS ได้ร่วมกันสอบทานธุรกิจ ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ขายและ Bitkub โดยบริษัทและ SCBS ได้เห็นศักยภาพและความสามารถในหลากหลายด้านของกลุ่ม Bitkub และเห็นโอกาสในการร่วมมือพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินธุรกิจของ Bitkub ในอีกหลายด้าน
อย่างไรก็ดี ถึงแม้การสอบทานธุรกิจจะไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันเป็นนัยสำคัญซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เนื่องจาก Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งยังมีความไม่แน่นอน ในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว ผู้ซื้อและผู้ขายจึงได้ตกลงร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ SCBS จึงมีมติให้ SCBS ยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.65 ทั้งนี้ บมจ.เอสซีบี เอกซ์ และ SCBS ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ในการเข้าสู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและภาคการเงินของประเทศไทย
หนีตายเทเหรียญ KUB กดราคาดิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า ราคาหุ้น SCB ปรับตัวขึ้นทันที ก่อนมาปิดทำการที่ระดับ 110.50 บาท บวก 6 บาท สวนทางกับราคาเหรียญ Bitkub Coin (KUB) ซึ่งเป็นเหรียญที่ออกโดยบิทคับ ราคาปรับตัวลงหนัก โดยนักลงทุนพากันแห่เทขายเหรียญ KUB หนีตายกันจ้าละหวั่น กดราคาดิ่งลงอย่างหนัก โดยลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 43 บาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด หรือลดลง 42% ภายในวันเดียวหรือในรอบ 24 ชั่วโมง ก่อนที่ล่าสุดในเวลา 18.37 น.ของวันที่ 25 ส.ค.65 ราคาจะรีบาวด์เคลื่อนไหวมาอยู่ที่ 63.89 บาท ลดลง 14.53% ในรอบ 24 ชั่วโมง (อ้างอิงจากเว็บเทรด Bitkub)
ทั้งนี้ ราคาเหรียญ KUB ได้ปรับตัวขึ้นจากระดับ 30 บาท ในวันที่ 2 พ.ย.64 ที่ บมจ. เอสซีบี เอกซ์ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บอร์ดมีมติอนุมัติให้ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นใน Bitkub 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 17,850 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัท Bitkub ขึ้นแท่นเป็นสตาร์ตอัพ ระดับ “ยูนิคอร์น” (สตาร์ตอัพที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯขึ้นไป) รายที่ 2 ของประเทศไทย (ต่อจากบริษัทแฟลช เอ็กเพรส) ทันที โดยนักลงทุนพากันเฮละโลเข้าซื้อเหรียญ KUB ดันราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 580 บาท เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 ก่อนจะค่อยๆปรับตัวลงมา หลังดีลส่อแววยืดเยื้อ ท่ามกลางที่ตลาดและราคาซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีมีความผันผวนอย่างหนัก ก่อนที่จะถึงวันประกาศล้มดีล ดับฝันการขึ้นเป็น “ยูนิคอร์น” ของ Bitkub ทันที
“จิรายุส” ยอมรับปิดดีลโดยดุษฎี
ด้านบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ออกแถลงการณ์โดยยืนยันว่า การดำเนินงานและการประกอบธุรกิจของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ บริษัทยังคงเป็นผู้นำในตลาดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย และมีทรัพยากรสำหรับการดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานและยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ และยังคงเดินหน้าต่อไปตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ เพื่อสร้างระบบนิเวศของตลาดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีคุณภาพ และประกอบธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาลเพื่อให้บริการนักลงทุนอย่างโปร่งใสและสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมแก่ผู้คนในสังคม
ขณะที่นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การตัดสินใจยุติธุรกรรมซื้อขายหุ้นครั้งนี้เป็นการตกลงร่วมกันของผู้บริหารทั้งสองฝ่าย ที่ได้พิจารณาอย่างรอบด้านและเห็นตรงกันว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ ขอขอบคุณ SCBS ที่เห็นถึงศักยภาพของบิทคับ เอ็กเช้นจ์ และสนับสนุนให้บริษัทคนไทยได้เติบโต แต่ความล่าช้าของธุรกรรมทำให้มีการยุติดีลครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินหน้าต่อไป บิทคับเป็นองค์กรที่มีอนาคตมาก ในฐานะผู้บริหารและผู้นำองค์กร ผมและทีมงานยังคงเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันในการเป็น National Champion ใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่โลกอนาคต และเป็นศูนย์กลางการเงินและเทคโนโลยีในภูมิภาค
ปลดล็อกราคาหุ้น SCB
ขณะที่ในส่วนของมุมมองนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ มีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นนี้ โดยช่วงแรกที่มีข่าว ราคาหุ้น SCB ลดลงมาค่อนข้างมาก ทำให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนตามลักษณะธุรกิจคริปโตฯและการประเมินมูลค่าที่สูงของ Bitkub ที่ 17,850 ล้านบาท สำหรับ 51% ด้วยกำไรสุทธิที่ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเห็นความระมัดระวังในการทำธุรกรรมประเภทใหม่ๆ จากการตรวจทานข้อมูลธุรกรรมในครั้งนี้ ที่ได้ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้มาก (จากที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นต้นปี 65) เนื่องจากประเด็นด้านกฎระเบียบ ซึ่งการตัดสินใจยกเลิกดีลครั้งนี้จะทำให้ความกังวลของนักลงทุนต่อ SCB ลดลง จากช่วงที่ SCB ได้ตกลงธุรกรรมกับ Bitkub จนถึงตอนนี้ ภาพธุรกิจคริปโตฯได้เปลี่ยนไปมาก ส่งผลให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์คริปโตฯเลิกกิจการไปหลายราย รวมถึงราคาสินทรัพย์เองก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน ยิ่งทำให้ตลาดเป็นกังวลด้านการประเมินมูลค่าของ Bitkub จึงมองข่าวครั้งนี้จะลดประเด็นถ่วงดังกล่าวและเปิดโอกาสให้ SCB ถูก re-rate ได้ในอนาคต
ด้าน บล.เอเซียพลัส ชี้ว่า เงินสดที่ไม่ได้ใช้ซื้อ Bitkub แล้ว 17,850 ล้านบาท ต้องติดตามว่าทาง SCB จะนำไปบริหารจัดการในรูปแบบใด เช่น เพิ่ม Dividend payout ratio หรือนำไปต่อยอดการเติบโตในบริษัทย่อยของยานแม่ ขณะที่มองประเด็น 17,850 ล้านบาท เป็น 1 ในประเด็นที่ทำให้ราคาหุ้นปีนี้ปรับฐานพอสมควรจากวันที่ 2 พ.ย. 64 ที่มีข่าวธุรกรรมดังกล่าวราคาหุ้น SCB อยู่ที่ 125-130 บาท.