นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็น 0.75% รวมทั้งมีความห่วงใยต่อลูกค้าแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว ธนาคารจึงจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในทันที แต่ขอติดตามสัญญาณทางเศรษฐกิจและพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจอีกครั้งแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทั้งยืนยันที่จะดูแลลูกค้าภายใต้สถานการณ์ที่มีความผันผวนและเปราะบาง
“แนวทางให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านมาตรการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ลูกค้ารายย่อยและเอสเอ็มอีอาทิ ลดอัตราผ่อนและขยายระยะเวลาผ่อนผ่านกระบวนการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ลดอัตราชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิตเหลือ 5% บัตรกดเงินสด เหลือ 3% ขยายวงเงินอนุมัติสูงสุดสำหรับสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับสำหรับลูกค้าที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท จาก 1.5 เท่า เป็น 2 เท่า และรวมยอดหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระการผ่อนชำระของลูกค้า”
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า ธนาคารยังตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับเดิมและยังคงมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อทุกกลุ่มภายใต้โครงการตั้งหลัก ที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านการเงินจากโควิด-19 ไปรวม 750,00 ราย และธนาคารยังให้การสนับสนุนและส่งเสริมการออม เพื่อสอดรับกับนโยบายดอกเบี้ยขาขึ้น โดยมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากพิเศษ ttb up&up บัญชีที่ให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกๆ 6 เดือน และได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูง เพิ่มสภาพคล่อง ถอนได้ก่อนกำหนดไม่ถูกลดดอกเบี้ย
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารยังไม่ได้ปรับดอกเบี้ยขึ้น และตรึงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมเพื่อช่วยลูกค้า เนื่องจากยังมีลูกค้าจำนวนมากที่ยังเผชิญปัญหา แต่จะตรึงดอกเบี้ยต่อไปตลอดทั้งปีหรือไม่ คงแล้วแต่ภาพรวมตลาด.