ธปท.ยกระดับ “ทางด่วนแก้หนี้” ให้ลูกหนี้ธุรกิจที่มีลูกหนี้หลายรายมีปัญหาแก้หนี้ไม่ได้ ลงทะเบียนแก้หนี้รวมกันทุกรายในทางด่วนแก้หนี้ได้ตั้งแต่ปีใหม่ 1 ม.ค.ช่วยให้แก้หนี้ได้มากขึ้น นอกจากนั้น ยังเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกหนี้ธุรกิจที่ยังเจรจาปรับหนี้ไม่ได้ เข้าโครงการหมอหนี้ ช่วยให้แก้หนี้ได้ไวขึ้น ปลื้มที่ผ่านมาช่วยลูกหนี้แล้วกว่า 2.54 แสนราย
นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างและยืดเยื้อ และที่ผ่านมา ธปท.ได้ออกมาตรการแก้ปัญหาหนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงการเปิด “ทางด่วนแก้หนี้” ตั้งแต่เดือน เม.ย.2563 เป็น “ช่องทางเสริม” ในลักษณะออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการหรือเจ้าหนี้ หรือได้รับความช่วยเหลือ แต่เงื่อนไขไม่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ สามารถแจ้งปัญหาและขอปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ได้
โดยที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ และในขณะนี้เพื่อให้เข้าถึงการปรับโครงสร้างหนี้ที่สอดคล้องกับรายได้ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนสูง ตามแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว ธปท.จึงได้ปรับปรุงโครงการทางด่วนแก้หนี้ให้สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจได้ทั่วถึงและสอดคล้องกับลักษณะปัญหาที่หลากหลายได้ดีขึ้น ใน 2 แนวทางคือ
1.ให้ลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายราย มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น วงเงินรวมตั้งแต่ 250 ล้านบาทขึ้นไป และประสบปัญหาในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ทีละราย เช่น ใช้เวลานาน หรือไม่สามารถทำได้ครบทุกราย สามารถลงทะเบียนขอปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้หลายรายพร้อมกันได้ในคราวเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 ถึง 31 ธ.ค.2566
2.เพิ่มทางเลือกให้กับลูกหนี้ธุรกิจอื่น ที่นอกเหนือจากข้อ 1 และมีปัญหาการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ สามารถลงทะเบียนแจ้งปัญหาผ่านทางด่วนแก้หนี้ รวมถึงสามารถแจ้งขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้ และคำแนะนำอื่นๆเพิ่มเติม ผ่านโครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565
ขณะที่ผลการดำเนินงานของทางด่วนแก้หนี้ ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการหรือเจ้าหนี้ในเครือข่ายของทางด่วนแก้หนี้จำนวน 75 แห่ง ทั้งที่อยู่ภายใต้การกำกับและนอกการกำกับของ ธปท. โดยนับตั้งแต่เริ่มโครงการ จนถึงวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา มีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือ 254,187 บัญชี หรือ 76% ของผู้ที่เข้าเงื่อนไข และส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้รายย่อย
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนกลุ่มต่างๆ นำร่อง 2 กลุ่ม ที่มีปัญหาหนี้สินสูง คือ บุคลากรครู และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในส่วนแรกได้ดำเนินงานร่วมกับสหกรณ์ครูจำนวน 20 แห่ง ครอบคลุมครูทั่วประเทศ กว่า 200,000 คน ส่วนการแก้ปัญหาหนี้ตำรวจ มีผู้เข้าร่วมโครงการ 4,900 ราย (ข้อมูล ณ ก.ย.64) ได้รับการแก้ปัญหาหนี้แล้ว 2,100 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการ 2,500 ราย.