ยอดซื้อ หุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ.ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ใช้เวลาแค่ 8 นาที 12 วินาที ขายเกลี้ยง 6 พันล้าน
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 64 นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า หลังจาก PTTER ได้เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลผ่านเป๋าตัง ไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 ที่ผ่านมาปรากฏว่ามียอดจองซื้อครบ 5,000 ล้านบาท
ส่งผลให้ ปตท.สผ. เพิ่มหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Exercise Greenshoe) อีก 1,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการเสนอขายทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท โดยการขายหุ้นกู้ดิจิทัลครั้งนี้เป็นความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยนับเป็นการซื้อขายหุ้นกู้ด้วยระบบดิจิทัลวอลเล็ตครั้งแรกในเอเชีย
"ผมขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ. ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของคนไทยที่มีความมั่นคงและพร้อมที่จะเติบโตในอนาคต โดยการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต"
โดยล่าสุดผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาในปี 2564 ของ ปตท.สผ. มีการเติบโต โดยที่ปริมาณการขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการในต่างประเทศ จากการเข้าร่วมทุนในแปลง 61 ประเทศโอมาน และการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการมาเลเซีย – แปลงเอช ส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น นับเป็นความสำเร็จจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท
นอกจากนี้ การเข้าร่วมลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมที่มีศักยภาพ และการค้นพบแหล่งน้ำมันและก๊าซฯ อย่างต่อเนื่องในมาเลเซีย เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะสร้างการเติบโตในระยะยาวให้กับ ปตท.สผ.
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความสำเร็จของการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลปตท.สผ.สะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อธุรกิจของปตท.สผ.และประสิทธิภาพของระบบเป๋าตัง ที่ได้รับการพัฒนาโดย อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) ให้เป็น Thailand Open Digital Platform ทำให้ทุกกิจกรรมการใช้ชีวิต ทั้งการใช้จ่ายโครงการภาครัฐผ่าน G-wallet สุขภาพ การศึกษา รวมถึงการออมและการลงทุน เป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย ทำรายการได้ทุกที่ ทุกเวลา
โดยการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลปตท.สผ. มีจำนวนผู้ลงทุนทั้งหมด 8,363 คน และจำหน่ายหมดในเวลา 8 นาที 12 วินาที โดยวงเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ทำให้ผู้ลงทุนกระจายตัวในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 40.9% และต่างจังหวัด 59.1%
ทั้งนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ลงทุนสูงถึง 11.61% และกระจายตัวทุกช่วงอายุระหว่าง 20-89 ปี โดยเฉพาะกลุ่ม First Jobber 20-29 ปี 7.8% และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปสูงถึง 25% สะท้อนถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงสินทรัพย์ลงทุนที่ตอบโจทย์เรื่องการออมอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
สำหรับผู้ลงทุนที่จองซื้อสำเร็จ สามารถตรวจสอบรายการจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลของท่านได้ในวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ ผ่านเมนูรายการย้อนหลัง โดยหุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ. จะแสดงในวอลเล็ตของท่านในวันที่ 5 พ.ย. 64 ซึ่งนับเป็นวันออกหุ้นกู้วันแรก ส่วนผู้ลงทุนที่พลาดโอกาสการจองซื้อหุ้นกู้ปตท.สผ.ในตลาดแรก สามารถซื้อขายหุ้นกู้ดิจิทัลปตท.สผ.ในตลาดรองได้บนแอปฯ เป๋าตัง ได้ 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. 64
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลปตท.สผ.ครั้งนี้ เป็นการต่อยอดจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของธนาคาร ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ทั้งในด้านการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนายกระดับตลาดทุนไทย นำเสนอบริการที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นผลิตภัณฑ์แบบ Scripless ไม่ต้องใช้เอกสาร ลดการเดินทางไปสาขา
โดยทำรายการบนแอปฯ เป๋าตังได้ทันที ซึ่งเป็นช่องทางที่ประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคยมีผู้ใช้งานกว่า 33 ล้านคน ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนได้ทั่วถึง ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ มีระบบที่โปร่งใส ปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน โดยธนาคารพร้อมจับมือกับพันธมิตรทุกกลุ่ม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ชีวิตดีขึ้นอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
สำหรับ หุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ. เป็นหุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 5 ปี ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี พ.ศ.2569 อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเริ่มต้นที่ 2.00% ต่อปี และสูงสุดที่ 2.75% ต่อปี คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 2.25% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เริ่มนับจากวันออกหุ้นกู้วันแรก คือ วันที่ 5 พ.ย. 64
โดยเปิดให้ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท นักลงทุนสามารถลงทุนเพิ่มด้วยอัตราทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท วงเงินลงทุนสูงสุดท่านละไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “AAA” จากทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 14 กั.ย. 64 ซึ่งถือเป็นอันดับสูงสุดของตราสารหนี้ในประเทศ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท