ธ.ก.ส.อุ้มเกษตรกร-คนว่างงาน ปล่อยเงินกู้ รายละ 1 แสนบาท ใช้ปลูกฟ้าทะลายโจร กระชาย ขิง เพื่อสร้างอาชีพ หลังสมุนไพรไทยฮอต คนแห่กินรักษาโควิด จนขาดตลาด ราคาพุ่งกระฉูด ด้านพาณิชย์เอาจริง ตามไล่เชือดผู้ค้ายาฟ้าทะลายโจรอีก 10 ราย หลังตรวจพบโกงราคาค้ากำไรเกินควร
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.พร้อมสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้เกษตรกร ผู้ว่างงาน และผู้ที่ย้ายกลับภูมิลำเนา เข้ามาขอสินเชื่อนำไปลงทุนปลูกพืชสมุนไพรที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงโควิดได้ เช่น ฟ้าทะลายโจร ขิง กระชาย พริก หอมแดง กระเทียม มะนาว โดยให้กู้ได้คนละ 100,000 บาท คิดดอกเบี้ยเพียง 4% ผ่านโครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ เพื่อเป็นการสนับสนุนสร้างงาน สร้างอาชีพในช่วงโควิด-19
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการหันมาใช้สมุนไพรทางเลือกในการรักษาและป้องกันโรคโควิดอย่างแพร่หลาย ทำให้มีความต้องการใช้พืชสมุนไพรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนผลผลิตไม่เพียงพอ และราคาสูงขึ้น ซึ่ง ธ.ก.ส.ก็พร้อมสนับสนุนทั้งแหล่งเงินและความรู้ให้ไปปลูกกัน เพราะทิศทางสมุนไพรไทยถือเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว หลังคนไทยมีการตื่นตัวบริโภคทั้งใช้แบบสดประกอบอาหาร หรือนำไปแปรรูปใช้ในอุตสาหกรรมยา ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ อีกทั้งทั่วโลกก็ให้ความสนใจสินค้าที่ทำจากธรรมชาติมากขึ้นด้วย
สำหรับรายละเอียดโครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ ธ.ก.ส.ได้ตั้งวงเงิน 30,000 ล้านบาท วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย โดยหากกู้เป็นค่าใช้จ่ายคิดดอกเบี้ย 4% ต่อปี ชำระคืนไม่เกิน 12 เดือน หรือสูงสุดไม่เกิน 18 เดือน นับแต่วันกู้ แต่หากกู้เพื่อลงทุน ปีที่ 1-3 คิดดอกเบี้ย 4% ต่อปี ปีที่ 4-5 ดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ซึ่งเท่ากับ 6.5% ต่อปี กำหนดเวลาชำระไม่เกิน 5 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 2 ปีแรก เริ่มกู้ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 มี.ค.67 โดยแจ้งขอสินเชื่อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชันไลน์ BAAC Family หรือติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ค้ายาฟ้าทะลายโจรที่ค้ากำไรเกินควร คาดว่าจะมีผู้ค้ากกว่า 10 รายที่จะถูกดำเนินคดี และน่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีได้ต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการเพิ่มเติมจากสัปดาห์ก่อนที่ดำเนินคดีกับผู้ค้ายาฟ้าทะลายโจรแบบค้ากำไรเกินควรไปแล้ว 10 ราย และร้านขายยาที่ขายชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจเอง (เอทีเค) ราคาสูงเกินสมควรอีก 1 ราย
“กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ดำเนินการ อย่างจริงจังกับผู้ค้ายาฟ้าทะลายโจรและชุดตรวจ เอทีเคที่ค้ากำไรเกินควร เพราะถือว่าเอาเปรียบและซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อน”
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้นำข้อมูลราคาจำหน่ายปลีกยาฟ้าทะลายโจรแต่ละชนิดและขนาด พร้อมทั้งรายชื่อบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายขึ้นเว็บไซต์กรม www.dit.go.th แล้ว เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบราคาจำหน่ายปลีกที่เหมาะสม และใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ เพราะขณะนี้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น จากการที่ประชาชนซื้อไว้เป็นทางเลือกในการรักษาโควิด-19 อย่างไรก็ตาม กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาและปริมาณเป็นประจำทุกวัน หากประชาชนพบการจำหน่ายราคาแพงเกินสมควร หรือกักตุน หรือปฏิเสธการจำหน่าย สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569.