นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การประชุม ครม. วันที่ 29 มิ.ย.นี้ จะรายงานความคืบหน้านโยบายแก้หนี้ครัวเรือน ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลหนี้ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้สถาบันการเงินของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน ได้ออกมาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในกลุ่มโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ เป็นเวลา 6 เดือน ส่วนธนาคารอื่นอยู่ระหว่างวางแผนดำเนินการ ส่วนเรื่องลดดอกเบี้ยให้เหลือ 0% ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารว่าจะมีความสามารถลดได้ขนาดไหน
สำหรับการปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือจีดีพีลงนั้น ต้องรอสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินสถานการณ์และปัจจัยที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่ง สศค.จะประเมินอีกครั้งเดือน ก.ค.นี้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดจีดีพีลงแล้ว “การส่งออกสินค้าไทยยังดีอยู่ ถ้าโควิด-19 คลี่คลายและเปิดประเทศได้ภายใน 120 วัน กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆจะกลับมาเป็นปกติ การจับจ่ายใช้สอยจะดีขึ้น เชื่อว่าเศรษฐกิจต้องดีขึ้น ตอนนี้รัฐบาลทำมาตรการเชิงรุกตรวจเชื้อโควิด รวมทั้งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ”
ส่วนโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ที่จะออกมาปลายปีนี้ แต่มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์น้อย จากเป้าหมาย 4 ล้านสิทธิ์นั้น ขอให้รอดูไปก่อน เพราะเพิ่งเริ่มต้น ขณะที่การเพิ่มวงเงินโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 เป็น 6,000 บาทต่อคน ตามที่เอกชนเสนอนั้น ขอพิจารณาก่อน แต่ขณะนี้ยังยึดตัวเลขเดิมคือ 3,000 บาทต่อคน.