ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับคดีในคดีที่กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขอชะลอการจ่ายค่าเสียหาย 24,000 ล้านบาท แก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ให้ 2 หน่วยงาน ต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2551 ที่ให้ 2 หน่วยงานรัฐ จ่ายค่าเสียหายจำนวนดังกล่าว เหตุผลที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าว และระบุว่าเมื่อคดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.410-412/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.221-223/2562 พิพากษาให้บังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 119/2547 ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 64/2551 โดยให้ 2 หน่วยงานปฏิบัติตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการให้เสร็จภายในกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
ดังนั้น ผลแห่งคำพิพากษาจึงผูกพัน ทั้ง 2 หน่วยงานต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการดังกล่าว แม้กระทรวงคมนาคมและ รฟท.จะอ้างว่าได้ดำเนินการทางศาล โดยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินว่ามติที่ประชุมใหญ่ของตุลาการในศาลปกครองสูงสุดครั้งที่ 18/2545 ขัดต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 หรือไม่ และ รฟท.ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ รวมทั้ง 2 หน่วยงาน
ได้สอบสวนเพื่อหาผู้รับผิดชอบทางแพ่งและทางวินัยจากการกระทำความผิดในโครงการนี้ก็ตาม แต่ในชั้นนี้ไม่เป็นเหตุที่จะเข้าเงื่อนไขในการงดการบังคับคดี ตามข้อ 131 แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2543 ส่วนการทุเลาการบังคับคดีไม่มีกฎหมายให้อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี และคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ศาลจึงไม่อาจมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีได้เช่นกัน.