นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารได้ออกมาตรการพักชำระหนี้ เพื่อช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 นั้น ขณะนี้มีลูกค้าบางกลุ่มไม่สามารถชำระหนี้ตามงวดการชำระได้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีลูกค้า 250,000 ราย จากลูกค้า 2.5 ล้านราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อค้างชำระ 80,000 ล้านบาท ที่ไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป ซึ่งธนาคารจะลงพื้นที่ให้คำปรึกษากับลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือ จะได้ไม่มีประวัติว่าไม่ชำระหนี้ เพราะหากเสียประวัติแล้วจะสูญเสียโอกาสกู้เงินไปอีก 3 ปี หากปล่อยไว้อาจเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ขยายใหญ่จนเป็นหนี้เสียในอนาคต จึงจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือเป็นกรณีๆ เพื่อให้กลับมาชำระหนี้ให้ได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อธนาคารด้วย เพราะจะไม่เกิดปัญหาหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) เพิ่ม คาดว่าเอ็นพีแอลจะอยู่ที่ 1-2% แต่จะพยายามไม่ให้ถึง 4%
“การช่วยลูกค้าที่ไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ถือเป็นพันธกิจของธนาคาร เพราะธนาคารมีเป้าหมายช่วยคนจน สร้างอาชีพให้คนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ที่ต้องตกงานกลับต่างจังหวัด ไปเริ่มต้นทำมาหากินใหม่และต้องการกู้เงิน ส่วนลูกค้าเดิมก็ต้องพักชำระเงินต้นลดดอกเบี้ย และหามาตรการอื่นช่วยให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ไขปัญหายากจน โดยออมสินขอเป็นส่วนช่วยแก้ความยากจน โดยปี 63 คาดว่าออมสินจะมีกำไร 18,000 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 24,000 ล้านบาท”.