บีคอน วีซี บริษัทเงินร่วมลงทุนของกสิกรไทย ประกาศลงทุนรอบ Series A ใน Robowealth สตาร์ทอัพชั้นนำด้าน Wealth Tech ปักธงนำคนไทยเข้าสู่ตลาดทุน ตั้งเป้าปี 64 มียอดมูลค่าการลงทุนรวม 30,000 ล้านบาท
ธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด หรือ Beacon VC กล่าวว่า นโยบายการลงทุนโดยรวมของบีคอน วีซี มุ่งเน้นการมองหาและร่วมสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ มีนวัตกรรม หรือบริการที่ต่อยอดบริการของธนาคารกสิกรไทย และถือเป็นการลงทุนครั้งแรกที่ทางธนาคารได้เข้าร่วมลงทุนกับ Start-Up พร้อมกับให้ร่วมพัฒนาโครงการไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็คือแอปพลิเคชัน FinVest ที่ร่วมกันเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2563
ล่าสุด Beacon VC บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทยได้เลือกร่วมลงทุนรอบ Series A ใน Robowealth ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีด้านการลงทุนที่ก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีแอปพลิเคชันด้านการลงทุนที่หลากหลาย
สำหรับ Fintech ในประเทศไทยนั้นถือว่าได้มีการเริ่มต้นมานานแล้ว แต่ความน่าสนใจของวงการ Fintech ในเมืองไทยนั้น คือ บริษัทที่มีการเติบโตได้ดี ไม่ใช่บริษัทที่มี Business Model และ Offering Model เพื่อมา Disrupt สถาบันการเงิน แต่เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการทำงานกับสถาบันการเงิน
โดยการนำองค์ความรู้ใหม่ๆ หรือแนวทางในการสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าในแบบใหม่ๆ มาเสริมกับจุดแข็งที่สถาบันการเงินมี เช่น ฐานลูกค้า ความปลอดภัยในการให้บริการ เพื่อก่อให้เกิดการเติบโตแบบเกื้อหนุนกัน
ชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท โรโบเวลธ์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า Robowealth มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงินของไทยให้มีความทันสมัย ปัจจุบันไทยมีนักลงทุนที่ลงทุนผ่านกองทุนรวม และตลาดหลักทรัพย์ไม่ถึง 5% จากจำนวนประชากรกว่า 70 ล้านคนทั่วประเทศ
สำหรับวิสัยทัศน์ของ Robowealth คือ การร่วมมือกันสร้างระบบนิเวศด้านการเงินที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Empower Future Financial Ecosystem ผ่านบริการทั้งในรูปแบบ Business to Consumer หรือ B2C และ Business to Business หรือ B2B เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเริ่มต้นสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน Robowealth มี 2 แอปพลิเคชันด้านการลงทุนยอดนิยม ภายใต้บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) โรโบเวลธ์ จำกัด ช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวมได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท โดยที่ทั้ง 2 แอปพลิเคชันต่างมีจุดยืนที่ชัดเจนในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
เริ่มด้วย odini ซึ่งเป็น Robo-advisor รายแรกในประเทศไทย เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2561 จับกลุ่มคนทั่วไปที่ต้องการเข้าถึงการลงทุนในกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ โดยมี Robo-advisor ปรับพอร์ตให้ทันต่อสถานการณ์ และสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และให้อิสระในการเลือกลงทุนเป็นเงินก้อน หรือทยอยลงทุนเป็นรายเดือน (DCA) โดยที่ Robowealth ได้เพิ่มเติมบริการ odini BLACK เข้าไปในแอปพลิเคชันเดิม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ากลุ่ม Mass Affluent
ส่วนแอปพลิเคชัน FinVest ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2563 เพื่อให้บริการคัดเลือกกองทุนรวมที่น่าสนใจ ในรูปแบบ Thematic Investment เน้นการให้ข้อมูลที่มีเนื้อหาเข้าใจง่าย คมชัด และชี้เป้า การลงทุนอย่างเป็นกลาง ผ่านผู้จัดการกองทุน
รวมถึงนักวิเคราะห์การลงทุนมืออาชีพ ภายใต้คณะกรรมการคัดเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ช่วยกันคัดเลือกกองทุนจาก บลจ. ชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดย FinVest ถือเป็นความร่วมมือของ Robowealth กับธนาคารกสิกรไทยและ Lu International บริษัทฟินเทคระดับโลก
นอกจากนี้ Robowealth ยังมีธุรกิจอื่นในเครืออีก ได้แก่ บริการด้านที่ปรึกษาการลงทุนสำหรับลูกค้ากลุ่ม High Net Worth ซึ่งต้องการที่ปรึกษาส่วนตัวที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน ผสมผสานกับเทคโนโลยีด้าน Robo-advisor เพื่อดูแลการลงทุนที่หลากหลาย แตกต่างกันไปสำหรับลูกค้าแต่ละราย
โดยบริหารงานโดยบลน.โรโบเวลธ์ และบริการพัฒนาแอปพลิเคชันในรูปแบบของ Software House ตามความต้องการของลูกค้าประเภทสถาบันการเงิน ภายใต้ บริษัท โค้ดฟิน จำกัด ซึ่งถือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพันธมิตรหลายราย ครอบคลุมสถาบันการเงินประเภท บลจ. บล. และธนาคารอีกด้วย