โควิด-19 ระบาดรอบใหม่กระทบเศรษฐกิจไม่มากนัก

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ยังอยู่ในวงจำกัดและรัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์ได้ และคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 กว่าวันเท่านั้น ซึ่งทำให้ผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจมีไม่มากนัก

“แม้จะมีการล็อกดาวน์ จ.สมุทรสาคร และประเมินกันว่าจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจเดือนละ 40,000-50,000 ล้านบาท แต่ยังถือว่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจและผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศที่มีขนาด 12.6 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่ายังกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไม่มากนัก จึงเห็นว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวเท่าที่ประมาณการไว้เดิมที่ติดลบ 6% ตามการคาดการณ์ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส่วนปี 2564 อาจจะขยายตัวได้เกินกว่า 4% เนื่องจากเมื่อมีวัคซีนโควิด-19 เข้ามาแล้ว จะทำให้สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ และในตอนนี้มีหลายประเทศที่ต้องการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งเรายังคงให้กักตัว 14 วัน แต่หากมีวัคซีนแล้วก็สามารถที่จะพิจารณาลดเงื่อนไขได้”

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ในปี 2564 จะยังคงเน้นเรื่องของการลงทุนและการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยมีวงเงินงบประมาณอยู่กว่า 3.2 ล้านล้านบาท ก็จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจอยู่แล้ว ส่วนการลงทุนจะเน้นเรื่องความร่วมมือให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการของรัฐ (พีพีพี) มากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆที่จะมีความต่อเนื่องไปถึงปี 2565 ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการช่วยเหลือภาคธุรกิจกำลังพิจารณาบางมาตรการ แต่ไม่ใช่มาตรการสินเชื่อผ่อนปรน หรือซอฟโลนท์ ซึ่งบางธุรกิจก็มีการช่วยเหลือบางมาตรการไปแล้ว เช่น ธุรกิจสายการบินที่ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน แต่มาตรการซอฟโลนท์ที่ขอสนับสนุนเข้ามา รัฐบาลคงไม่ได้ช่วยในส่วนนั้น ส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เราก็มีการช่วยเหลือไปแล้ว ในส่วนของการพ่วงเงื่อนไขการซื้ออสังหาริมทรัพย์ไปกับการเข้าเป็นสมาชิกไทยแลนด์อีลิทการ์ดแล้ว

“การขอให้รัฐบาลช่วยซอฟท์โลนต้องถามว่า ผู้ประกอบการจะเอาซอฟท์โลนไปทำอะไร ไปใช้หนี้เงินต้นหรือใช้ดอกเงินกู้ ถ้าแบบนั้นทำไมไม่ไปคุยกับธนาคารเอง ซึ่งธนาคารพร้อมที่จะช่วยทั้งขยายระยะเวลา ปรับโครงสร้างหนี้ และขอสินเชื่อเพิ่มเติมซึ่งส่วนนี้ไม่ใช่ขอให้รัฐบาลช่วย”.