ชงแผนกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เพิ่มกำลังซื้อผู้เสียภาษีให้มากขึ้น

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้เชิญสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มารายงานความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา สศค.ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงานแล้ว ซึ่งหากตนให้ความเห็นชอบมาตรการดังกล่าว กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. พิจารณาในวันที่ 7 ต.ค.นี้ ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ เพื่อออกมาตรการต่อไป

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะออก 2 มาตรการเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เน้นทำให้ผู้เสียภาษีมีการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งมีหลายวิธีในการดำเนินการ ทั้งการใช้มาตรการภาษี และมาตรการทางการเงิน โดยจะปรับรูปแบบจากมาตรการชิมช้อปใช้ และมาตรการช้อปช่วยชาติที่เคยออกไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่จะเปลี่ยนชื่อให้เหมาะสม

“ผมยังไม่ได้คุยในรายละเอียด แต่จะมี 2 มาตรการออกมา ส่วนจะเป็นมาตรการชิมช้อปใช้ และมาตรการช้อปช่วยชาติหรือไม่ ต้องถาม สศค.อีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่รู้จะใช้ชื่ออะไร ส่วนเรื่องของระยะเวลาการใช้มาตรการนั้น วางไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ติดขัดอะไร จะเสนอ ศบศ.เห็นชอบในการประชุมวันที่ 7 ต.ค.นี้ และถ้า ศบศ.เห็นด้วย สัปดาห์หน้า กระทรวงการคลังจะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ทันที”

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า มาตรการที่จะออกมานั้น จะเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ คือ เดือน ต.ค.-ธ.ค. โดยจะดำเนินการในรูปแบบการร่วมจ่าย (Co-pay) เพิ่มกำลังซื้อผู้เสียภาษีให้มากขึ้น ซึ่งปรับรูปแบบจากมาตรการชิมช้อปใช้ และมาตรการช้อปช่วยชาติให้มีความเหมาะสมมากขึ้น.