ศาลจับมือสมาคมแบงก์ แก้เกม "นายประกันแสบ"

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ศาลจับมือสมาคมแบงก์ แก้เกม "นายประกันแสบ"

Date Time: 21 ก.ค. 2563 05:13 น.

Summary

  • สำนักงานศาลยุติธรรมจับมือธนาคารและสถาบันการเงิน ดัดหลังนายประกันฉ้อฉลเซ็นเอ็มโอยูตรวจสอบ บัญชีเงินฝากนายประกันในคดีอาญาผ่านอีเมลได้ภายใน 3-4 วัน เพื่อตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้ประกันคดีอาญา

Latest

ปลดล็อกเรื่องภาษี!

สำนักงานศาลยุติธรรมจับมือธนาคารและสถาบันการเงิน ดัดหลังนายประกันฉ้อฉลเซ็นเอ็มโอยูตรวจสอบ บัญชีเงินฝากนายประกันในคดีอาญาผ่านอีเมลได้ภายใน 3-4 วัน เพื่อตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้ประกันคดีอาญาเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน ประหยัดค่าใช้จ่าย และลด การใช้ทรัพยากรกระดาษ ทำให้การบังคับคดีผู้ประกันในคดีอาญามีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังที่ผ่านมาใช้เวลาร่วมเดือน อนาคตศาลหวังว่าจะตรวจสอบข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เนื่องจากยอดผิดสัญญาประกันบานตะไทกว่า 4,000 ล้านบาท ตามอายัด-ยึดคืนมาได้แล้วกว่า 600 ล้านบาท ยังค้างอยู่อีกกว่า 3,000 ล้านบาท ทำให้รัฐเสียหาย

ศาลจับมือธนาคารแก้ปัญหานายประกันโยกย้ายเงินออกจากบัญชีประกัน เปิดเผยขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารศาลอาญาชั้น 12 เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ก.ค. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย แถลงข่าวความร่วมมือระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมกับธนาคารและสถาบันการเงิน กรณีการรับ-ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันคดีอาญาผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เพื่อให้การตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้ประกันคดีอาญาเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการใช้ทรัพยากรกระดาษ และทำให้การบังคับคดีผู้ประกันในคดีอาญามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายสราวุธกล่าวว่า แต่เดิมการสืบหาทรัพย์สินของบุคคลซึ่งเป็นผู้ประกันในคดีอาญาที่ผิดสัญญาประกันต่อศาล สำนักงานศาลยุติธรรมจะดำเนินการสืบทรัพย์และอายัดบัญชีเงินฝากผู้ประกันผ่านทางธนาคารและสถาบันการเงิน วิธีส่งเอกสารประกอบการสืบทรัพย์ทางไปรษณีย์มีค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก ใช้เวลาสืบทรัพย์แต่ละครั้งเป็นเวลานาน กว่าจะทราบข้อมูลบัญชีเงินฝากของผู้ประกันใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน เพื่อให้การสืบหาทรัพย์สินของผู้ประกันในคดีอาญาเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 และข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการบังคับคดีผู้ประกันในคดีอาญา 2560 และเป็นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระหว่างองค์กร

“สำนักงานศาลยุติธรรมจึงลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการรับ-ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันในคดีอาญาผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) กับธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สำนักงานศาลยุติธรรม จะส่งหมายให้ธนาคารและสถาบันการเงินตรวจสอบข้อมูลบัญชีเงินฝากของผู้ประกันในคดีอาญา และให้ธนาคารอายัดเงินในบัญชีเงินฝาก นำส่งข้อมูลผลการตรวจสอบหรือผลการอายัดบัญชีเงินฝากให้แก่ศาล ผ่านสำนักงานศาลยุติธรรมทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ภายในเวลาไม่เกินกว่า 3 - 4 วัน นับจากวันที่ธนาคารได้รับหมายจากสำนักงานศาลยุติธรรม กรณีศาลจะให้ธนาคารนำส่งเงินของผู้ประกันในคดีอาญา ศาลจะส่งหมายบังคับคดีหรือคำสั่งอื่นใดของศาลให้แก่ธนาคารเพื่อให้นำส่งเงินให้ศาลเพื่อชำระค่าปรับผู้ประกันต่อไป การดำเนินการตามความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ทราบว่า ผู้ประกันในคดีอาญามีบัญชีเงินฝากในธนาคารและสาขาใดบ้าง ส่งผลให้อายัดบัญชีได้อย่างทันท่วงที” นายสราวุธกล่าว

นายสราวุธกล่าวด้วยว่า สำนักงานศาลฯต้องขอบคุณภาคเอกชนที่ทำให้การดำเนินงานในอำนาจของศาลมีการเปลี่ยนแปลง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เชื่อว่าการบังคับคดีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะนี้ยอดผิดสัญญาประกันมี 4,000 กว่าล้านบาท ดำเนินการไปได้ 600 กว่าล้านบาท ค้างอยู่ 3,000 กว่าล้านบาท จะติดตามคืนให้รัฐ ส่วนจำนวนคดีที่ตามอยู่ประมาณ 12,000 คดี ค้างอยู่ 8,000 คดี เชื่อว่าอนาคตการส่งต่อข้อมูลการดำเนินการจะทำได้แบบเรียลไทม์ เป็นความต้องการและใฝ่ฝันเสมอว่า ระบบฐานข้อมูลที่ศาลมีอยู่จะทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิ-ภาพมากยิ่งขึ้น สามารถนำข้อมูลมาใช้ได้ทันที เดือนหน้าสำนักงานศาลฯจะมีกิจกรรมเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ คำนึงถึง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย คนมีหน้าที่รายงานข้อมูลทางการเงินจะมั่นใจว่าจัดทำถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการดูแลคุ้มครองตามกฎหมายทุกประการ

ด้านนายกอบศักดิ์กล่าวว่า ในฐานะที่สมาคมธนาคารไทยเป็นองค์กรสำคัญในการประสานงานธนาคาร พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพ มั่นคง สร้างความพึงพอใจ สมาคมธนาคารและสถาบันทางการเงินทั้ง 3 องค์กร ยังร่วมกันผลักดันสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล เป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ตามแนวคิดธนาคารเพื่อความยั่งยืน การตรวจสอบอายัดบัญชีผู้ประกันตามคำสั่งศาล ถือเป็นความร่วมมือสำคัญ จัดทำเอ็มโอยูการรับ-ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากผู้ประกันผ่านอีเมล หวังว่าความร่วมมือจะทำให้สะดวกรวดเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีใช้หลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝาก หากผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนีศาลจะประสานทางธนาคารหรือสถาบันทางการเงินเพื่ออายัดเงินในบัญชี ตามหลักประกันที่ศาลกำหนดไว้ในการปล่อยชั่วคราว กรณีใช้หลักประกันเป็นโฉนดที่ดิน ศาลจะตรวจสอบกับธนาคารหรือสถาบันการเงินว่า บัญชีเงินฝากของนายประกันหรือผู้ประกันมีเพียงพอกับหลักทรัพย์โฉนดที่ดินที่ศาลกำหนดหลักประกันไว้หรือไม่ หากเงินในบัญชีไม่เพียงพอศาลจะนำโฉนดที่ดินขายทอดตลาดต่อไป สำหรับยอดคดีที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนีมีราวประมาณ 20,000 คดี สำหรับความร่วมมือระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมกับธนาคารและสถาบันการเงินครั้งนี้ เพื่ออุดช่องโหว่กรณีการยักย้ายเงินออกจากบัญชี ระหว่างศาลประสานให้ธนาคารตรวจสอบบัญชีผู้ประกันหรือนายประกัน เนื่องจากแต่ก่อนต้องใช้เวลาตรวจสอบนาน ด้วยความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้การตรวจสอบบัญชีเงินฝากทำได้เร็วขึ้น สามารถอายัดบัญชีได้เร็วขึ้น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ