วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนล่าสุด วางเป้าแก้หนี้เสีย NPL 65,000 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาดูแลบุคลากรตามสโลแกนเน้นดูแลประชาชน
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยหลังเข้ารับตำแหน่งว่า ดีใจที่ได้กลับมาทำงานที่ธนาคารออมสินอีกครั้ง ความท้าทายของธนาคารหลังจากนี้ คือ การบริหารจัดการหนี้ที่ก่อให้ไม่เกิดรายได้ หรือ NPL และการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างหนี้ ตามคำสั่งของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ทั้งนี้ ก่อนการพักชำระหนี้และดอกเบี้ยอัตโนมัติ เพื่อช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารมีลูกหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน แต่ยังไม่เป็นเอ็นพีแอล จำนวน 300,000 บัญชี วงเงิน 70,000 ล้านบาท
ส่วนหนี้ NPL เดิม จำนวน 400,000 บัญชี วงเงิน 65,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 135,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นความท้าทายของธนาคารว่าจะบริหารจัดการหนี้ส่วนนี้อย่างไร
ส่วนประเด็นที่ ธปท.สั่งให้ธนาคารออมสินตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 83,000 ล้านบาทนั้น เบื้องต้นธนาคารจะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ประมาณ 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินจะขอลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต่อผู้บริหารลง อาทิ การโฆษณา การจัดงานตีกอล์ฟ ไปต่างประเทศ เป็นต้น โดยจะให้จัดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะต้องดูความคุ้มค่าในการจัดงานด้วย ซึ่งเรื่องนี้ผมได้สั่งการชัดเจนไปแล้ว เพื่อให้ธนาคารออมสินอยู่บนความโปร่งใส และกลับมาสู่ตัวตนของธนาคารออมสินที่แท้จริงที่เน้นดูแลประชาชน
โดยหลังจากนี้ ธนาคารคงไม่แข่งเรื่องความใหญ่ของงาน หรือเรื่องเงินบริจาค แต่จะมุ่งเป้าทุกอย่างไปที่การสนับสนุนสาขาของธนาคารให้มีความเข้มแข็ง โดยให้ผู้บริหารส่วนกลางช่วยสนับสนุนงานของสาขา
ทั้งเรื่องอุปกรณ์ และการให้เงินล่วงเวลา หรือ โอที เพื่อให้พนักงานสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย แม้ล่าสุดเงินโอทีที่ให้พนักงาน ซึ่งทำงานเพื่อช่วยเหลือลูกค้าช่วยโควิด-19 จะหมดลง แต่ตนก็ยินดีจะโอนเงินให้เพิ่มเติมให้อีกเท่าหนึ่งเพื่อดูแลพนักงานเหล่านี้ให้มีกำลังใจทำงาน
ส่วนโบนัสของลูกจ้าง จะจ่ายให้แน่นอนไม่ลังเล เพราะการที่จะช่วยคนนอกให้แข็งแรงได้ รวมถึงการจะเป็นธนาคารที่เป็นกำลังหลักของประเทศชาติได้ คนในธนาคารต้องมีความแข็งแรงก่อน
ดังนั้นจึงต้องดูแลคนของเราให้ดี ไม่ใช่ตัวใครตัวมัน โดยตนจะสร้างช่องทางการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อให้แจ้งปัญหาการทำงาน และนำข้อเสนอแนะเหล่านั้นมาปรับแก้เพื่อทำให้การทำงานในธนาคารดีขึ้น.