จ่อตั้งกองทุนช่วยเกษตรกร ธ.ก.ส.ของบ 5.5 หมื่นล้านฟื้นเศรษฐกิจฐานราก

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

จ่อตั้งกองทุนช่วยเกษตรกร ธ.ก.ส.ของบ 5.5 หมื่นล้านฟื้นเศรษฐกิจฐานราก

Date Time: 6 มิ.ย. 2563 05:01 น.

Summary

  • ธ.ก.ส.จ่อของบรัฐตั้งกองทุน 55,000 ล้านบาท ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากหลังหมดพิษโควิด-19 ดัน 3 โครงการ สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ 500,000 ราย ให้เงินวิสาหกิจชุมชน 16,000 แห่ง 1 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนการผลิต

Latest

เคาะมาตรการดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 7 หมื่นล้าน ปล่อยสินเชื่อสร้างอาชีพ-สร้างบ้าน

ธ.ก.ส.จ่อของบรัฐตั้งกองทุน 55,000 ล้านบาท ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากหลังหมดพิษโควิด-19 ดัน 3 โครงการ สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ 500,000 ราย ให้เงินวิสาหกิจชุมชน 16,000 แห่ง 1 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนการผลิต พร้อมลุยสร้างการท่องเที่ยวชุมชนกว่า 7,000 แห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลังว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากวงเงินรวม 55,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูประชาชนจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ยื่นเสนอขอใช้เงินจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของวงเงินฟื้นฟู 400,000 ล้านบาท ต่อคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการใช้เงินที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานเรียบร้อยแล้ว

สำหรับกองทุนดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้โครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย กำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.63-31 มี.ค.65 โดยทั้ง 3 โครงการประกอบด้วย 1.โครงการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารระดับชุมชน (ตั้งหลัก) วงเงิน 720 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการระยะสั้น ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารด้วยการทำเกษตรกรรมยั่งยืนให้แก่เกษตรกร และคนในครัวเรือนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เรียนรู้การพึ่งพาตนเองระดับครัวเรือน จำนวน 300,000 ราย

ทั้งนี้ ธ.ก.ส.มีวงเงินงบประมาณสนับสนุนเพื่อจัดการเรียนรู้ผ่านระบบการเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E-Learning) เป็นเงิน 90 ล้านบาท และเงินสำหรับศึกษาดูงานที่ศูนย์เรียนรู้ เป็นเงิน 450 ล้านบาท รวมทั้งพัฒนาศูนย์เรียนรู้เกษตรกรรมยั่งยืน จำนวน 1,200 แห่ง โดยมีวงเงินงบประมาณสำหรับเตรียมพร้อมด้านสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมเรียนรู้ สาธิต การฝึกปฏิบัติ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เป็นเงิน 180 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสนับสนุนสินเชื่อผ่อนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ (New Gen ฮักบ้านเกิด) 500,000 ราย และสินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ 200,000 ราย

2.โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านธุรกิจชุมชน (ตั้งฐาน) วงเงิน 32,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิต และจัดการการตลาด โดยมีเป้าหมายให้วิสาหกิจชุมชน 16,000 แห่ง ลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 50% ของมูลค่าการลงทุนแห่งละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นเงิน 16,000 ล้านบาท และสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการผลิตไม่เกิน 50% ของค่าใช้จ่ายในการผลิตในปีแรกเป็นเงิน 16,000 ล้านบาท กรณีวิสาหกิจชุมชนมีเงินทุนไม่พอสามารถขอสินเชื่อผ่อนปรนจากโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทยของ ธ.ก.ส.ได้

และ 3.โครงการเสริมสร้างความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจฐานราก (ตั้งมั่น) วงเงินงบประมาณ 21,765 ล้านบาท สนับสนุนให้สถาบันเกษตรกร ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน เป็นต้น เป็นกลไกการสร้างความมั่นคงในอาชีพและรายได้ของชุมชนในการผลิต การให้บริการทางการเกษตร ท่องเที่ยวชุมชน และบริการอื่นๆจำนวน 7,255 แห่ง โดยสนับสนุนงบประมาณไม่เกิน 50% ของมูลค่าลงทุน

สำหรับกรณีสถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตร มีเงินทุนไม่เพียงพอต่อการดำเนินงานตามโครงการ สามารถขอสินเชื่อผ่อนปรนจากโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย หรือสินเชื่อผู้ประกอบการเกษตรของ ธ.ก.ส. และขอผ่อนปรนหลัก ประกันเงินกู้ได้

ด้านนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยว่า สำหรับผลการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรงวดเดือน พ.ค.ปัจจุบันโอนเงินแล้ว 7.10 ล้านราย เป็นเงิน 35,518 ล้านบาท และจะเริ่มโอนเงิน 5,000 บาทของเดือน มิ.ย.วันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป ส่วนกรณีแจ้งหมายเลขบัญชีช้ากว่าวันที่ 15 มิ.ย. จะขึ้นอยู่กับทาง ธ.ก.ส.ว่าจะให้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรทีละงวดหรือรวม 2 งวดเป็น 10,000 บาทในคราวเดียว ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้สั่งโอนเงินเยียวยาเกษตรกรกลุ่มที่มีปัญหาเกี่ยวกับบัญชีธนาคารแล้ว 141,891 ราย คาดว่าเงินจะจ่ายเข้าบัญชีวันที่ 7 มิ.ย.นี้ โดยคงเหลือระหว่างติดตามข้อมูล 214,189 ราย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ