ธปท.จี้แบงก์พาณิชย์หยุดขูดรีดลูกค้า

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ธปท.จี้แบงก์พาณิชย์หยุดขูดรีดลูกค้า

Date Time: 11 ก.พ. 2563 05:50 น.

Summary

  • ธปท.จี้แบงก์พาณิชย์หยุดเอาเปรียบประชาชน ออกกฎเหล็กให้คิดค่าธรรมเนียมอย่างเป็นธรรม ล่าสุด การคิดวงเงินต้นในการคิดดอกเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้จะมีผลบังคับใช้ 1 พ.ค.นี้

Latest

“ค้างหนี้-จ่ายช้า”เร่งตัว NPLs คนไทยพุ่ง! สินเชื่อรถ-บ้าน มากสุด กู้เต็มวงเงิน หันพึ่งหนี้นอกระบบ

ปรับปรุงคิดค่าธรรมเนียมใหม่ 200 รายการ

ธปท.จี้แบงก์พาณิชย์หยุดเอาเปรียบประชาชน ออกกฎเหล็กให้คิดค่าธรรมเนียมอย่างเป็นธรรม ล่าสุด การคิดวงเงินต้นในการคิดดอกเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้จะมีผลบังคับใช้ 1 พ.ค.นี้ ส่วนการปรับปรุงค่าธรรมเนียมอีก 200 รายการ คาดมีผลใช้ไตรมาส 3 ยันส่วนใหญ่ลดลง เว้นกรณีที่ต้นทุนสูงขึ้นจริงค่าธรรมเนียมอาจปรับขึ้น

นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ธปท.ได้สั่งปรับปรุงการคิดค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ให้เหมาะสม และเป็นธรรมมากขึ้นใน 3 เรื่อง คือ การคิดค่าธรรมเนียมค่าปรับการชำระหนี้ก่อนกำหนดเพื่อรีไฟแนนซ์ การคิดค่าธรรมเนียมรายปีบัตรเครดิต รวมทั้งบัตรเดบิตตามจริง และการคิดวงเงินต้นในการคิดดอกเบี้ยปรับ กรณีผิดนัดชำระหนี้ ซึ่ง 2 เรื่องแรกมีผลบังคับใช้ไปแล้ว และเรื่องที่ 3 จะมีผลอย่างเป็นทางการวันที่ 1 พ.ค.นี้นั้น ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างให้ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินอื่น รวมทั้งผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) ทบทวนเพื่อปรับโครงสร้างการคิดค่าธรรมเนียมอีกประมาณ 200 รายการ เพื่อให้เหมาะสมกับต้นทุนการบริหารจัดการ

“การคิดเงินต้นของดอกเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้ หากลูกหนี้พบปัญหาดอกเบี้ยปรับที่สูงเกินไป แม้ยังไม่ถึงวันบังคับใช้วันที่ 1 พ.ค.นี้ ก็สามารถเจรจากับธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินเจ้าหนี้ได้ก่อน เพราะเป็นนโยบายที่ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ลดภาระประชาชน ให้สามารถผ่อนชำระต่อไปได้ อยู่แล้ว ส่วนการทบทวนการคิดค่าธรรมเนียมที่เหลืออีก 200 รายการ น่าจะเสร็จสิ้น และประกาศได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้”

อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนโครงสร้างค่าธรรมเนียม พบว่า ค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่ที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากประชาชนจะลดลงจากในปัจจุบัน แต่ยังมีบางรายการที่ปรับขึ้น เป็นไปตามต้นทุนของการให้บริการที่แท้จริง โดยไม่ได้คิดค่าปรับแบบที่ไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นธรรม ซึ่งธนาคารพาณิชย์ให้ความ ร่วมมือเป็นอย่างดี แม้การปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมในภาพรวมจะลดลงจากปัจจุบัน และกระทบต่อรายได้ของธนาคารพาณิชย์บ้าง

“ทุกฝ่ายเข้าใจว่าต้องทำเพื่อให้ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ ต่างๆที่ธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินอื่น รวมทั้งนอนแบงก์คิดจากประชาชนเป็นไปอย่างเหมาะสมกับต้นทุนการให้บริการ ไม่เอาเปรียบ และเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งในช่วงแรกอาจมีผลเสียกับสถาบันการเงินบ้าง แต่จะเป็นผลดีในระยะยาว เมื่อปรับโครงสร้างทั้งหมด มีการปรับกลยุทธ์การให้บริการแล้ว โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือและความมั่นใจจากลูกค้า”

นางธัญญนิตย์ กล่าวต่อถึงเกณฑ์การให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม หรือมาร์เกต คอนดักส์ ที่ได้ออก ประกาศให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการแล้วในช่วงก่อนหน้า อย่างการห้ามขายพ่วงสินค้า เช่น สินเชื่อกับประกัน หรือการแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงสิทธิที่จะได้รับและสิทธิที่จะปฏิเสธข้อเสนอ รวมทั้งแจ้งรายละเอียดข้อดีและข้อเสียอย่างชัดเจนในการซื้อ หรือรับบริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งไม่ให้กดดันให้พนักงานต้องขายสินค้า เพื่อใช้เป็นผลงานในการขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่งว่า ธปท.กำลังขอความร่วมมือให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ นำเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้ด้วย โดยจะมีผลบังคับใช้ราวไตรมาส 2 ปีนี้

สำหรับสถาบันการเงินที่ไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์มาร์เกต คอนดักส์นั้น ธปท.มีบทลงโทษในส่วนของค่าปรับ ซึ่งปีที่ผ่านมาได้ปรับธนาคารพาณิชย์ที่ฝ่าฝืนแล้ว และในปีนี้จะตรวจสอบต่อเนื่อง โดยใช้หลายช่องทางทั้งการตรวจสอบภายในประจำปี รวมทั้งการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปรับบริการต่างๆ ที่สาขาธนาคารพาณิชย์ และหากประชาชนได้รับความไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนมาที่ศูนย์ คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน โทร.1213.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ