นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ในปี 62 ที่ผ่านมา สามารถสร้างทำสถิติใหม่ ด้วยยอดการออกหุ้นกู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยมูลค่ากว่า 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 61 โดย 3 ธุรกิจหลักที่ออกมากที่สุด ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ เงินทุนและหลักทรัพย์ ทั้งการทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด (รีไฟแนนซ์) ระดมทุนเพื่อลงทุนในโครงการต่างๆ หรือเข้าซื้อกิจการ นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มียอดการออกพุ่งขึ้นกว่า 3 เท่าในปีที่แล้ว ส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้นมีมูลค่าการออกลดลงมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงของการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน (ตั๋วพีเอ็น)
ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจไทยจะเผชิญกับแรงกดดัน แต่ปี 62 ตลาดตราสารหนี้ไทย ถือว่าขยายตัวในระดับที่ดี มูลค่าคงค้างรวมที่ 13.52 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.72% จาก 12.79 ล้านล้านบาท ในปี 61 โดยปริมาณการซื้อขายในตลาดรองเพิ่มขึ้น 11% จากปี 61 ส่วนตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน มูลค่าคงค้างมีขยายตัวสูงถึง 9% จากปี 61 เป็นการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวกว่า 94% ขณะที่การลงทุนจากต่างประเทศ เป็นการไหลออกสุทธิ 84,452 ล้านบาท โดยมีการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 52,456 ล้านบาท แต่ขายออกสุทธิตราสารหนี้ระยะสั้น 136,909 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นปี 62 ต่างชาติมีมูลค่าสะสมสุทธิในตราสารหนี้ไทยทั้งสิ้น 991,779 ล้านบาท หรือเท่ากับ 10.49%
ขณะที่ปี 63 คาดว่าเอกชนไทยยังคงมีความต้องการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ระยะยาวต่อเนื่อง เชื่อว่าจะมีมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวอยู่ที่ 850,000 ล้านบาท.