รายย่อยหมดลุ้น "ลิบรา"

นางพราวพร เสนาณรงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยในงานเสวนาหัวข้อ “ลิบราก้าวที่กล้าของเฟซบุ๊ก : ก้าวสู่โลกใหม่ไร้พรมแดน” ว่า ก.ล.ต.และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของพัฒนาการของคริปโทเคอร์เรนซี หรือสกุลเงินดิจิทัล ภายใต้ชื่อ “ลิบรา” ที่เฟซบุ๊กร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจะนำออกมาใช้ต้นปี 63 เพื่อเตรียมความพร้อมและรับมือ หากจำเป็นต้องออกกฎหมายลูกมาควบคุม ก็พร้อมดำเนินการทันที เพื่อคุ้มครองนักลงทุนในประเทศ

ทั้งนี้ ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้แบ่งหน้าที่ดูแลเงินลิบราตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน เช่น หากลิบราถูกนำมาใช้ชำระเงิน หรือโอนลิบราระหว่างกัน จะอยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. แต่หากนำลิบรามาซื้อขาย (เทรด) ในไทย จะเป็นหน้าที่กำกับของ ก.ล.ต. ภายใต้ พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ธนาคารกลางของแต่ละประเทศเฝ้าติดตามลิบราอย่างใกล้ชิด เพราะกังวลว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพการเงินของแต่ละประเทศ และกังวลว่าจะถูกนำไปใช้เกี่ยวกับการฟอกเงิน และอาจส่งผลต่อผู้ลงทุนได้ โดยรัฐสภาสหรัฐฯได้ส่งหนังสือถึงเฟซบุ๊กขอให้ยุติการพัฒนาลิบรา และเชิญมาชี้แจงวันที่ 17 ก.ค.นี้ ซึ่งต้องติดตามว่าจะได้ข้อสรุปเช่นไร

“ลิบรา เป็นการออกสกุลเงินดิจิทัล ที่มีมูลค่าตามสินทรัพย์อ้างอิง คือเงินสกุลต่างๆที่นำมาเป็นหลักประกัน เพื่อใช้ชำระเงิน โอนเงิน และเปิดให้ผู้ที่เข้าไม่ถึงการบริการทางการเงิน สามารถใช้บริการได้ โดย ก.ล.ต.มองว่ามีโอกาสเก็งกำไรน้อย เพราะลิบราจะผูกกับค่าเงินสกุลหลักที่ทำให้ความผัวผวนมีไม่มาก แต่ขอเตือนประชาชน หากถูกชักชวนลงทุนในลิบรา อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะลิบรายังไม่มีการบังคับใช้ และการระดมทุนของลิบรา เฟซบุ๊กเปิดให้บริษัทชื่อดังขนาดใหญ่เข้าร่วมลงทุนเท่านั้น ทำให้นักลงทุนหรือประชาชนทั่วไป หมดโอกาสเข้าร่วมลงทุน”