ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ได้แถลงข่าวร่วมกับสถาบันการเงิน 10 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยเพื่อรายย่อย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารทหารไทย เพื่อเปิดให้บริการรับฝาก-ถอนเงินได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ หรือ Bank@Post อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ และกลุ่มผู้ใช้บริการที่ยังไม่นิยมใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง หรือโมบายแบงกิ้ง ซึ่งช่วงนี้จนถึง 30 เม.ย. 2562 ทุกธนาคารที่ร่วมมือกับไปรษณีย์ ได้จัดโปรโมชันพิเศษ ลดค่าธรรมเนียมบริการลงเหลือรายการละ 5 บาท จากราคาปกติ 10-25 บาทต่อรายการ
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้เป็นตัวแทนธนาคารที่ไปรษณีย์ หรือ Bank@Post มาตั้งแต่ปี 2554 ระยะแรกได้ร่วมมือกับสถาบันการเงิน 4-5 แห่ง เพื่อให้บริการฝากเงิน โอนเงิน วงเงินตั้งแต่ 20,000-50,000 บาทต่อรายการ โดยไม่ต้องมีสมุดบัญชีได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ แต่ขณะนี้ได้ร่วมมือกับธนาคารเพิ่มเติมอีก รวมเป็น 10 แห่ง เพื่อขยายการบริการให้มากยิ่งขึ้น เสมือนเป็นสาขาธนาคารในต่างจังหวัด เนื่องจากไปรษณีย์ไทย มีเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ มากกว่า 1,000 แห่ง และในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะขยายการให้บริการทางการเงินเพิ่มเติม จากเดิมฝาก-โอน เพิ่มอีกรายการ คือถอนเงิน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ได้ด้วย
ทั้งนี้ รายได้จากบริการทางการเงินคิดเป็น 7-8% ของรายได้รวม ซึ่งรายได้รวมปีนี้ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 30,000 ล้านบาท กำไร 4,000 ล้านบาท โดยจะเป็นรายได้จากบริการทางการเงินที่ 2,700 ล้านบาท นอกจากนั้น ไปรษณีย์ไทยยังมีเป้าหมายขยายบริการทางการเงินให้ครอบคลุมเร็วๆนี้ จะเปิดบริการเติมเงินบัตรทางด่วน M-pass ด้วย.