ผู้ส่งออกลดใช้เอฟทีเอ พิษสงครามการค้าโลกค่าเงินผันผวน

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) เดือน ม.ค.62 ว่า ผู้ส่งออกไทยใช้สิทธิประโยชน์ส่งออกภายใต้เอฟทีเอ 12 ฉบับ และจีเอสพี 5 ประเทศ มีมูลค่ารวม 5,734.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 2.08%

เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.61 คิดเป็นอัตราการใช้สิทธิประโยชน์ 74.60% โดยแบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเอ 5,323.15 ล้านเหรียญฯ ลดลง 2.82% และภายใต้จีเอสพี 411.32 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 8.62% ซึ่งการใช้สิทธิลดลง สอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกของไทยเดือน ม.ค.62 ที่ลดลง 5.65% เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า การผันผวนของค่าเงินในตลาดโลก และการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของหลายประเทศ

สำหรับการใช้สิทธิภายใต้เอฟทีเอกับ 12 ประเทศ พบว่า ตลาดที่ผู้ส่งออกไทยใช้สิทธิประโยชน์ส่งออกสูงสุด ได้แก่ อาเซียน 2,052.36 ล้านเหรียญฯ รองลงมา คือ จีน 1,243.63 ล้านเหรียญฯ, ญี่ปุ่น 705.25 ล้านเหรียญฯ, ออสเตรเลีย 642.29 ล้านเหรียญฯ และอินเดีย 354.91 ล้านเหรียญฯ

โดยสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิสูงสุด ได้แก่ รถยนต์บรรทุก, ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ, น้ำมันปิโตรเลียม, ข้าว เป็นต้น ส่วนการใช้สิทธิภายใต้จีเอสพี ที่ไทยได้จาก 5 ประเทศ คือ สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย และเครือรัฐเอกราช นอร์เวย์ และญี่ปุ่นนั้น โดยปี 62 ได้ประมาณการเป้าหมายการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ ที่ 81,025 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 9% เนื่องจากแนวโน้มการส่งออกในตลาดใหม่มีศักยภาพ และการพัฒนาระบบบริการของกรม เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง.