นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กล่าวภายหลังงาน “เรื่องเล่าจากใจ ก้าวต่อไปของ SME D Bank” ว่า ในปีนี้ตั้งเป้าลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้ต่ำกว่า 10% จากสิ้นปี 2561 มีเอ็นพีแอลเหลืออยู่ 17,000 ล้านบาท โดยมีแผนขายหนี้เสียกว่า 8,000 ล้านบาท ทำให้เอ็นพีแอลปีนี้เหลือเพียง 9,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หนี้เอ็นพีแอลของ ธพว.เคยพุ่งสูงสุดในระบบธนาคาร ในปี 2557 โดยมีหนี้เอ็นพีแอลกว่า 40% หรือประมาณ 37,000 ล้านบาท ส่วนในอนาคตได้ฝากความหวังไว้กับกรรมการผู้จัดการธนาคารคนใหม่และพนักงานธนาคารทำให้เอ็นพีแอล ธพว.ลดมาอยู่ในระดับไม่เกิน 5% ถือเป็นระดับปกติของธนาคารรัฐ
“ในวันที่ 8 มี.ค.2562 จะครบวาระที่ผมอยู่กับเอสเอ็มอีแบงก์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ ซึ่งมีคนนอกมาสมัคร 6 ราย คาดว่าการสรรหาจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ โดยยืนยันว่าแม้ผมจะครบวาระ แต่พนักงานธนาคารพร้อมจะขับเคลื่อนธนาคารให้เดินหน้าต่อไป เพื่อให้ ธพว.กลับมาเป็นธนาคารที่อยู่ในภาวะปกติ จากก่อนหน้านี้อยู่ในภาวะที่ต้องฟื้นฟู โดยขณะนี้การปล่อยสินเชื่อใหม่กำหนดให้เป็นเอ็นพีแอลไม่เกิน 0.25% ในปี 2561 สามารถทำได้ที่ 0.21% และในปี 2561 อยู่ที่ 0.06% เท่านั้นถือว่าต่ำมาก คาดว่าหวังว่าในอนาคตหนี้เอ็นพีแอลของธนาคารจะลดต่ำลงเหลือ 5%”
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังอนุมัติเพิ่มทุนให้ ธพว. จำนวน 8,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มเพิ่มทุนไตรมาส 4 ปีนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท และในช่วงต้นปี 2563 อีก 4,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่ปีนี้ธนาคารได้วางเป้าหมายไว้ที่ 57,200 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้าที่มีการปล่อยสินเชื่อ 35,000 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ 57,200 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็น การปล่อยสินเชื่อผ่านสาขา 35,000 ล้านบาท และสำหรับรายย่อยผ่านหน่วยบริการเคลื่อนที่ หรือรถม้าเติมทุน 22,000 ล้านบาท โดยในปีนี้ธนาคารคาดว่าจะมีกำไร 2,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา.